เผา จยย.ลวงเจ้าหน้าที่ก่อนบึ้มซ้ำ โชคดีไร้เจ็บ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุลอบเผารถจักรยานยนต์ และวางระเบิดดักเอาไว้เพื่อลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี
เหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.20 น. วันศุกร์ที่ 17 พ.ย.60 ร.ต.ท.นิกร หุ้ยล่อง พนักงานสอบสวน สภ.มายอ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน จุดไฟเผารถจักรยานยนต์ บนถนนหน้าโรงเรียนศิริราษฎร์สามัคคี ตั้งอยู่ที่ ต.ถนน อ.มายอ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองเข้าที่เกิดเหตุด้วย
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากที่ว่าการอำเภอมายอ นำโดยปลัดป้องกัน และอาสารักษาดินแดน (อส.) ของ อ.มายอ กำลังเดินทางเข้าไปยังด้านหน้าโรงเรียนศิริราษฎร์สามัคคี ก่อนถึงจุดเกิดเหตุเผารถจักรยานยนต์ประมาณ 1 กิโลเมตร ปรากฏว่ามีคนร้ายใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊ส จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รายได้ใดรับอันตราย
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายได้วางแผนลวงเจ้าหน้าที่ให้เดินทางเข้าไปที่หน้าโรงเรียนศิริราษฎร์สามัคคี โดยเผารถจักรยานยนต์สร้างสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ต้องนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ จากนั้นก็ดักโจมตีด้วยระเบิดระหว่างทาง ทั้งยังมีรายงานว่า ใกล้ๆ กับรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายจุดไฟเผา มีการวางระเบิดดักไว้อีก 1 ลูก แต่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โรงเรียนศิริราษฎร์สามัคคี และโรงเรียนใกล้เคียง ปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 วัน เพื่อความปลอดภัย
ยิงดับโฆษกหมู่บ้านช่วยงานรัฐ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 13 พ.ย. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายอายุ ฮาแว อายุ 48 ปี ลูกจ้างโครงการสร้างงานและจ้างงานเร่งด่วน (ลูกจ้าง 4,500) ในพื้นที่ ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หน้าบ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 ต.ยะต๊ะ ซึ่งเป็นบ้านของนายอายุเอง แต่นายอายุเสียเลือดมาก จึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รามัน ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายอายุเดินทางไปประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้าน เสร็จแล้วได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อถึงหน้าบ้าน กำลังลงจากรถ ได้ถูกคนร้ายซึ่งจอดรถซุ่มรออยู่ยิงใส่ จนเสียชีวิตดังกล่าว
สำหรับนายอายุ ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในพื้นที่ ต.ยะต๊ะ ที่ช่วยงานของหน่วยงานรัฐ ทั้งเป็นลูกจ้าง 4,500 เป็นโฆษกประจำหมู่บ้าน และร่วมในโครงการพาคนกลับบ้าน ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ด้วย
-------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ และศูนย์กู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่