ม็อบกลุ่มชาติพันธุ์ร่วม 2 พัน เรียกร้อง “เกิดบนดินไทย ขอสิทธิพื้นฐานคนไทย”
กลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2 พันคน ชุมนุมทำเนียบฯ ร้องเกิดบนดินไทยขอมีสิทธิ์พื้นฐานความเป็นไทย มีบัตรประชาชน-ที่ดินทำกิน-รักษาฟรี-ได้เรียน ผลักดันเขตสังคมวัฒนธรรมพิเศษ จี้ รบ.ทำตามมติ ครม.53
วันที่ 29 มี.ค.55 ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มคนไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองกว่า 2,000 คนมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาและผลักดันนโยบายเขตสังคมวัฒนธรรมพิเศษของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง โดยนายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานเครือข่ายคนไร้สัญชาติฯ กล่าวถึงข้อเรียกร้องว่า 1.ให้มีมติคระรัฐมนตรี(ครม.)คุ้มครองข้อพิพาทระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหน่วยงานรัฐอื่นๆกับกลุ่มชาติพันธุ์ โดยให้กระทรวงยุติธรรมเป็นคนกลางคลี่ 2.ให้ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายแก้ปัญหาและฟื้นฟูวิถีชีวิตวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์และชนพื้นเมืองทั่วประเทศ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน
3.ให้มี ครม.จัดตั้งกองทุนแก้ปัญหาฟื้นฟูวิถีชีวิตคนไร้สัญชาติอย่างน้อยปีละ 500 ล้านบาท 4.ให้ตั้งคณะกรรมการตามข้อ 2 โดยเร็วเพื่อดำเนินการตามมติ ครม.2553 เรื่องแก้ปัญหาชาวเลและกะเหรี่ยงโดยเร่งประกาศเขตพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษ ชุมชนชาวเล 8 พื้นที่ ชาวกะเหรี่ยง 4 พื้นที่ สนับสนุนการวิจัยศึกษาสำรวจรวบรวมข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ สนับสนุนการศึกษาเพื่อให้เกิดการจัดตั้งองค์กรหรือสถาบันดูแลคนไร้สัญชาติตามแนวทางเขตสังคมวัฒนธรรมพิเศษภายใน 6 เดือน รวมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วนกรณีความขัดแย้งปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกินโดยเร็ว
นายไมตรี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองมากกว่า 36 ชนเผ่า มากกว่า 1,200,000 คน จำนวนนี้เป็นผู้ไร้สัญชาติกว่า 457,409 คน ส่วนใหญ่ตั้งรกรากในประเทศไทยมานาน มีวิถีชีวิตเรียบง่าย แต่ถูกบั่นทอนให้อ่อนแอลงจากนโยบายการพัฒนาที่ไม่สมดุลของรัฐภายใต้ระอบทุนนิยมเสรี
“ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แต่ชนเผ่าส่วนใหญ่ยังไม่มีสิทธิ์เป็นคนไทย รัฐบาลจะเปิดให้คนอื่นเข้ามา ชาวบ้านที่อยู่มาก่อนจะไม่มีที่ยืน อนาคตชาวเลต้องออกไปอยู่กลางทะเลเพราะชายหาดเป็นของฝรั่งที่ดินเป็นของนายทุน เช่น ชาวราไวย์ 2 พันกว่าคนอยู่ในพื้นที่ 19 ไร่ เอกชนรุกพื้นที่เข้าไปขุดสุสานบรรพบุรุษขึ้นมาเป็นที่ท่องเที่ยว ศาลสั่งให้ย้ายออกภายใน 30 วัน พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหน” นายไมตรี กล่าว
ขณะที่ นายนิรันดร์ หยังปาน ชาวอุรักลาโว้ย ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดเผยกับศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศราว่า อุรักลาโว้ยและมอร์แกนอยู่ที่ราไวย์หลายชั่วอายุคน มีประเพณีวัฒนธรรมของตนเอง มีอาชีพประมงพื้นบ้าน อยู่กันมาก่อนที่นายทุนจะออกโฉนดทับที่พวกตน ปัจจุบันมี 244 หลังคาเรือน 2,042 คน ขณะนี้กำลังถูกนายทุนฟ้องขับไล่ และกดดันทุกรูปแบบ เช่น ไม่ให้ใช้ไฟใช้น้ำที่บ่อน้ำในหมู่บ้าน
“2 หลังศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนภายใน 30 วันส่วนอีก 8 อยู่ระหว่างดำเนินคดีและมีอีกหลายคดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งสิทธิขั้นพื้นฐาน เรื่องน้ำเรื่องไฟฟ้าที่ชาวราไวย์ไม่มีสิทธิ์ อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้เพราะเราเดือดร้อนมาก” นายนิรันดร์ กล่าว
นายพฤ โอ่โดเชา ประธานกลุ่มชนเผ่าปกากะญอและคณะกรรมการเครือข่ายเกษตรภาคเหนือ กล่าวว่าชนเผ่าที่อยู่ในพื้นที่ถูกกดทับด้วยทุนจากข้างนอก ต้องการให้รัฐบาลมีกฎหมายมีนโยบายหนุนเสริมป้องกันชุมชนและให้สังคมเข้าใจวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ใช่ล้อเลียนดูถูกวัฒนธรรมของพวกเขา อยากให้มีการยอมรับความแตกต่างหลากหลายในสังคม เป็นประชาธิปไตยที่ไม่มองคนอื่นต่ำกว่า
“ชาวบ้านที่อยู่มานานไม่มีสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ทั้งๆที่เป็นคนรักษาป่า รัฐกลับมองว่าเราทำลายป่า รัฐต้องหนุนเสริมในจุดที่ไม่เต็มเพื่อหาทางออกให้ชาวบ้าน หนุนเสริมความเป็นคนไทยให้มีสิทธิ์มีเสียงไม่ออกกฎหมายมาบังคับให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ ชาวบ้านต้องการกฎหมายที่มาคุ้มครองวิถีชีวิต” นายพฤ กล่าว
นางคำ นายนวล ตัวแทนชนเผ่าดาระอั้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กล่าวว่าพวกตนอยู่ในพื้นที่มาหลายชั่วอายุคน แต่ยังเป็นคนไร้สัญชาติที่บัตรกำหนดให้อยู่แต่ในพื้นที่ข้ามไปจังหวัดอื่นไม่ได้ ใช้ขอรับการรักษาพยายาบาลก็ไม่ได้ และไม่มีสิทธิ์ในที่ดินทำกิน จึงต้องไปทำงานก่อสร้างที่ อ.เชียงดาว หลายถูกจับอยู่ในระหว่างประกันชั้นศาลคนละ 50,000 บาท ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่าย รัฐก็ไม่เคยเหลียวแล
“เราอยู่ในแผ่นดินถิ่นเกิดของตัวเองก็ยังไม่ได้ อีกไม่นานคนแก่คนเฒ่าก็จะตายเป็นห่วงแต่ลูกหลานจะอยู่อย่างไรในอนาคต อยากให้รัฐช่วยเรื่องสัญชาติ เที่ทำกิน การรักษาพยาบาล” นายคำ กล่าว
ด้าน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ลงมารับหนังสือเรียกร้องจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยนายพร้อมพงษ์กล่าวว่า จะนำไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นเรื่องที่ถูกหมักหมมมาหลายรัฐบาล เชื่อว่าทุกปัญหาจะทำให้แล้วเสร็จในรัฐบาลนี้
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.55) กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนเข้าร่วมงานเวทีสมัชชาปฏิรูประดับชาติที่ไบเทคบางนา .