ตามรอยโรงไฟฟ้าสระแก้ว! ท้าพิสูจน์ผลงาน บ.หลาน อดีต ผบ.สส. ก่อนชิงโรงขยะกทม.1.87พันล.
"... งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ขนาด 9.99 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ EPC (Engneering Procurement and Construction) จังหวัดสระแก้ว ที่บริษัท เอทูฯ นำมาใช้ยืนยันเรื่องประสบการณ์และผลงาน ในการเข้าร่วมประกวดราคาโครงการนี้ เคยถูกระบุว่าเป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบ บริษัท กรีน พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จํากัด ผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าภูมิภาค และเพิ่งจะมีการทำสัญญาว่าจ้างให้ บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด เข้ามาเป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างงานต่อ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา..."
สืบเนื่องจาก นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (ดีดี) ให้สัมภาษณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยืนยันว่ากระบวนการจัดจ้างผู้รับเหมาโครงการงานออกแบบจัดหาระบบก่อสร้างติดตั้งทดสอบระบบในรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และเดินระบบโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มูลค่างานรวม 1,870 ล้านบาท ของ บริษัท กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. (กทม. ถือหุ้น 99.98%) ไม่ได้มีลักษณะรวบรัดเร่งรีบตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ขั้นตอนการดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ทุกประการ
ส่วนผลการคัดเลือก บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด ให้เป็นผู้ชนะนั้น เป็นเพราะบริษัทเอทูฯ ให้ข้อเสนอดีที่สุด ทั้งแผนการลงทุน ข้อเสนอเทคนิค และการเงิน ดีกว่าบริษัทเอกชนคู่แข่งรายอื่น และ ในทีโออาร์ กำหนดไว้ชัดเจนว่า บริษัทกรุงเทพธนาคม จะเจรจากับผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับแรก โดยจะต้องได้คะแนนแต่ละด้านไม่น้อยกว่า 60% และต้องมีคะแนนรวมไม่น้อยกว่า 70 % ขึ้นไป ปรากฎว่าบริษัทเอทูฯ เป็นผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด มีประสบการณ์งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ขนาด 9.99 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ EPC (Engneering Procurement and Construction) ที่จังหวัดสระแก้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง70% นอกจากนี้ ยังมีหนังสือข้อตกลงร่วมทำงานกับบริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่น่าเชื่อถือมายืนยันประกอบด้วย
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอทูฯ ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2559 บริษัท เอทูฯ ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้มีอำนาจบริษัทใหม่ โดยมี นางพิมพฤดา พิทักษ์ธีระธรรม หลานสาว พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 1 ปรากฎชื่อเข้ามาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจด้วย พร้อมแจ้งเพิ่มวัตุถประสงค์การทำธุรกิจเป็น 58 ข้อ ข้อที่เพิ่มขึ้นมา ล้วนเกี่ยวข้องกับกิจการโรงงานกำจัดของเสียจากชุมชน ตรงตรงตามเงื่อนไข คุณสมบัติในการเข้าแข่งขันโครงการฯ นี้ของบริษัท กรุงเทพธนาคมฯ
เมื่อเปรียบเทียบ เงื่อนเวลาในการแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์การทำธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโรงงานกำจัดของเสียจากชุมชนดังกล่าว กับ ช่วงเวลาที่บริษัท กรุงเทพธนาคาร จำกัด ประกาศแจ้งเชิญชวนเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอแข่งขันงานโครงการนี้ คือ ในช่วงกลางเดือนส.ค.2560 จะพบว่ามีระยะเวลาห่างกันประมาณ 10 เดือนเท่านั้น (อ่านประกอบ : เจาะคุณสมบัติบ.หลานอดีตผบ.สส.! เพิ่งแจ้งทำธุรกิจโรงขยะชุมชน10ด.ก่อนชิงงาน1.87พันล.)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ขนาด 9.99 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ EPC (Engneering Procurement and Construction) จังหวัดสระแก้ว ที่บริษัท เอทูฯ นำมาใช้ยืนยันเรื่องประสบการณ์และผลงาน ในการเข้าร่วมประกวดราคาโครงการนี้ พบว่า โครงการนี้อยู่ในความรับผิดชอบ บริษัท กรีน พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จํากัด ซึ่งเป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าภูมิภาค และเพิ่งจะมีการทำสัญญาว่าจ้างให้ บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด เข้ามาเป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างงานต่อ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา (มีการชี้แจงว่าปัจจุบันมีความคืบหน้างาน70%)
ช่วงเวลาทำสัญญาจ้าง ห่างจากช่วงที่บริษัทเอทูฯ เข้าร่วมยื่นเสนอราคา โครงการงานออกแบบจัดหาระบบก่อสร้างติดตั้งทดสอบระบบในรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และเดินระบบโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มูลค่างานรวม 1,870 ล้านบาท ประมาณ 10 เดือนเศษเช่นกัน
ขณะที่การเข้ารับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ขนาด 9.99 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ EPC จังหวัดสระแก้ว ของบริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด ดังกล่าว ส่งผลทำให้ ราคาหุ้น บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น (APCS) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัทเอทูฯ ปรับพุ่งสูงขึ้น 23.35% มาอยู่ที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 27.05 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.16 น. โดยเปิดตลาดที่ 4.94 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.90 บาท สูงสุดรอบกว่า 6 เดือน และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 4.94 บาท (อ้างอิงข่าวส่วนนี้ จาก http://www.ryt9.com/s/iq05/2572028)
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท กรีน พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จํากัด นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2559 บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จํากัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ได้เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการลงทุนในบริษัท กรีน พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน จากขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งสูงสุด 9.9 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าภูมิภาค ในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 9.0 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ มีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 1,280.98 ล้านบาท ประกอบด้วย
(1) มูลค่าการซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 40 ล้านบาท
(2) มูลค่าชำระค่าหุ้นเพิ่มเติมให้เต็มมูลค่าที่ตราไว้ จำนวน 6.98 ล้านบาท
(3) มูลค่าการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการ (ไม่รวมส่วนทุนจดทะเบียนเดิม 16 ล้านบาท) จำนวน 1,234 ล้านบาท
โดย บริษัท กรีน พาวเวอร์ฯ เป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าภูมิภาค โดยสัญญามีระยะเวลา 5 ปีและต่อสัญญาต่อเนื่องครั้งละ 5 ปี โดยอัตโนมัติจนกว่าจะมีการยกเลิกสัญญา
ตามสัญญาดังกล่าว บริษัท กรีน พาวเวอร์ฯ จะเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน จากขยะอุตสาหกรรม โดยได้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี นับจากวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (Commercial Operation Date : COD)
ทั้งนี้ กฟภ. ได้มีหนังสือที่ มท 5303.12/28769 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2559 อนุมัติเลื่อนกำหนดวัน SCOD ให้กับ บริษัท กรีน พาวเวอร์ฯ ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และอนุมัติการย้ายที่ตั้งโครงการไปยัง ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน จากขยะอุตสาหกรรมของ บริษัท กรีน พาวเวอร์ฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 5% โดยใช้ระบบพลังงานความร้อน (Thermal Process)
(ดูรายละเอียดประกอบ file:///C:/Users/max/Downloads/16062466.pdf)
หากเปรียบเทียบช่วงเวลาจะพบว่า ภายหลังจากที่ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จํากัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อบริษัท กรีน พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จํากัด เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2559 ผ่านไปประมาณ 3 เดือนเศษ ก็ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด เข้ามารับงานต่อ ทันที่
คำถามที่น่าสนใจและชวนให้สืบค้นข้อมูลต่อ คือ บริษัทเอทูฯ มีดีอะไร? ทำไม บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จํากัด (มหาชน) ถึงกล้าไว้วางใจ ว่าจ้างงานสำคัญระดับพันล้านเช่นนี้? งานในพื้นที่หลังจากที่บริษัท เอทูฯ เข้าไปรับจ้างมีความคืบหน้ากว่า 70% จริงหรือ?
และที่สำคัญข้อมูลเกี่ยวกับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ขนาด 9.99 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ EPC (Engneering Procurement and Construction) จังหวัดสระแก้ว ที่ตรวจสอบพบทั้งหมดนี้ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเอกชน ของ บริษัท กรุงเทพธนาคาร รับทราบ และนำไปใช้ประกอบการพิจารณาคุณสมบัติ โดยเฉพาะประสบการ์ในการทำงานของบริษัทเอทูฯ ในการยื่นเสนองานแข่งขันงานโครงการงานออกแบบจัดหาระบบก่อสร้างติดตั้งทดสอบระบบในรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และเดินระบบโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มูลค่างานรวม 1,870 ล้านบาท ด้วยหรือไม่
เพราะโปรดอย่าลืม (อีกครั้ง) ว่าโครงการฯ ของกทม. มีความสำคัญ และมูลค่าสูงนับพันล้านบาท
ประสบการณ์รับงานของผู้รับจ้างน่าจะมีความสำคัญอยู่มิใช่น้อย?
อ่านประกอบ :
ที่แท้บ.หลานสาว อดีตผบ.สส.คว้างานโรงไฟฟ้าขยะกทม.1.87พันล.-เพิ่งซื้อหุ้นต่อช่วงปลายปี59
ไม่รอคำวินิจฉัยกม.จัดซื้อใหม่! บ.กรุงเทพธนาคมแพร่ชื่อเอกชนคว้าโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.
กังขาคุณสมบัติผู้ชนะ! เอกชนร้องอิศราสอบปมบ.กรุงเทพธนาคมรวบรัดจัดจ้างโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.
ขึ้น404-NotFound!เว็บบ.กรุงเทพธนาคมมีปัญหา-ไม่โชว์ชื่อคู่เทียบโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.?
ไขไทม์ไลน์พิสูจน์ชัดๆ ปมจัดจ้างโรงไฟฟ้าขยะกทม.1.87พันล. 'รวบรัด-เร่งรีบ' จริงหรือไม่?
เพิ่งรู้บ.หลานอดีตผบ.สส.คว้างาน!บิ๊กกรุงเทพธนาคมยันจ้างโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.ไร้รวบรัด
เจาะคุณสมบัติบ.หลานอดีตผบ.สส.! เพิ่งแจ้งทำธุรกิจโรงขยะชุมชน10ด.ก่อนชิงงาน1.87พันล.