บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนฯ คลังมอบเหรียญเชิดชูเกียรติ
ครม. รับทราบแนวทางการดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ พร้อมจัดทำ เหรียญเชิดชูเกียรติเป็นเหรียญพระคลัง ชนิดทองแดงชุบทอง ความสูงประมาณ 3.5 เซนติเมตร สลักข้อความ “ร่ำรวย สุขภาพดี อายุยืน”
วันที่ 7 พ.ย. 2560 ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยที่ประชุมฯ ได้มีการพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ดังนี้
1. รับทราบแนวทางการดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
2. เห็นชอบเปลี่ยนชื่อโครงการสละสิทธิการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดยสมัครใจ เป็นโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้จ้างกรมธนารักษ์จัดทำเหรียญเชิดชูเกียรติ และจัดส่งให้แก่ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงการคลังรายงานว่า
การรับแจ้งบริจาคเบี้ยยังชีพ และการส่งเงินบริจาคเข้ากองทุนผู้สูงอายุ มีดังนี้
1. ผู้สูงอายุที่ต้องการบริจาคเบี้ยยังชีพสามารถแสดงความจำนงได้ที่หน่วยรับแจ้งการบริจาค ได้แก่ สำนักงานเขต กทม. อบต. เทศบาล และพัทยาที่ตนได้ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไว้ โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกรอกแบบฟอร์มที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ทั้งนี้ ผู้บริจาคสามารถยกเลิกการบริจาคได้
2. หน่วยรับแจ้งการบริจาคจัดส่งเงินบริจาคและข้อมูลของผู้บริจาคให้แก่กองทุนผู้สูงอายุตามขั้นตอนที่กำหนด โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งกองทุนผู้สูงอายุและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) จะจัดส่งใบเสร็จให้แก่ผู้บริจาคต่อไป
ทั้งนี้ เหรียญเชิดชูเกียรติเป็นเหรียญพระคลัง ชนิดทองแดงชุบทอง ความสูงประมาณ 3.5 เซนติเมตร สลักข้อความ “ร่ำรวย สุขภาพดี อายุยืน” และข้อความ “เหรียญเชิดชูเกียรติ สำหรับผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ”