ยันเครื่องสแกนตาต่างด้าวตัวละแสนไร้ทุจริต! ปลัดแรงงาน แจงปมเด้งฟ้าผ่าอธิบดีกรมจัดหางาน
ปลัดแรงงาน ทำหนังสือแจงสื่อปมเด้งฟ้าผ่า วรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นั่งรองปลัดฯ ไม่เกี่ยวข้องโครงการจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาตัวละแสน ยันไร้ปัญหาทุจริต ชี้การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ควรให้ความสำคัญประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่วางระบบการบริการจัดการแรงงานต่างด้าวให้เรียบร้อยหลักกฏหมาย-สากล มากกว่า เผยปัจจุบันตั้งคกก.ดูแลการดำเนินงานเต็มที่แล้ว
จากกรณีมีกระแสข่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 48/2560 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ นายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน และให้ ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2560 เป็นต้นไป เป็นเพราะไม่สนองตอบงานนโยบายของรัฐบาลในการนำระบบไบโอดาต้า ที่สามารถช่วยพิสูจน์ลายนิ้วมือ ม่านตา ยืนยันตัวตนของแรงงานพม่าที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ (อ่านประกอบ : ไม่สนองตอบใช้ไบโอดาต้าแก้ปัญหาแรงงานพม่า!เผยเบื้องหลังบิ๊กตู่ เด้งฟ้าผ่าอธิบดีจัดหางาน)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีนี้ ระบุว่า การพิสูจน์อัตลักษณ์เป็นแนวทางที่สำคัญในการพิสูจน์ตัวตนของแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศควบคู่กับการจัดทำทะเบียนประวัติในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามกฏหมาย ไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาโดยผิดกฏหมายอีก การสแกนม่านตาก็เป็นวิธีการหนึ่งในการพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคลโดยกรมเจ้าท่าได้ดำเนินเบื้องต้นก่อนในแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงและมอบหมายให้กรมการจัดหางานดำเนินการต่อควบคู่กับการออกใบอนุญาตทำงานเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวเองโดยรับเครื่องสแกนม่านตาจากกรมเจ้าท่าจำนวน30เครื่อง(เครื่องละประมาณ100,000บาท)ทั้งนี้ถ้ามีความจำเป็นก็ให้กรมการจัดหางานสามารถขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมได้ สำหรับการประมวลผลและนำมาใช้ประโยชน์กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (สรอ.) ดำเนินการ
ดังนั้น การกล่าวอ้างว่าโครงการดังกล่าวมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท ตลอดจนการกล่าวพาดพึงถึงบุคคลอื่นโดยไม่มีหลักฐาน และการกล่าวหาว่าโครงการฯ อาจเกิดการทุจริตขึ้นนั้น เป็นการกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลความเป็นจริง ไม่ถูกต้อง และเป็นการกล่าวหาอย่างไม่มีหลักฐาน ประเด็นที่น่าจะให้ความสำคัญคือประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และการวางระบบการบริการจัดการแรงงานต่างด้าวให้เรียบร้อยและเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามหลักกฏหมายและหลักสากล ทั้งแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงและแรงงานต่างด้าวอื่นๆทั้งหมดมากกว่า
ทั้งนี้โดยกระทรวงแรงงานมีเป้าหมายจะให้แล้วเสร็จภายใน31 มี.ค.2561นี้ ด้วยเหตุนี้จึงมีคำสั่งคสช.ที่49/2560 เรื่องการพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว ลงวันที่ 2พย.2560 โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นในการดำเนินการเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพและใช้ประโยชน์ร่วมกันของหน่วยราชการต่อไป
นอกจากนี้งานที่สำคัญของกรมการจัดหางานคือการหางานให้คนไทยมีงานทำและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยร่วมมือกับส่วนราชการในกระทรวงและหน่วยงานอื่นเป็นสำคัญ