ราคาแพงกว่าตลาด3เท่า!ศรีสุวรรณยื่นสอบบิ๊กตู่ไฟเขียวซื้อเครื่องตรวจความเร็วตัวละ6.7แสน
'ศรีสุวรรณ' ลุยยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ ปภ. จัดซื้อเครื่องตรวจความเร็วตัวละ 6.7แสน อ้างสอบพบข้อมูลชัดแพงกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป 2-3 เท่า พ่วงปมบิ๊กตู่อนุมัติงบกลาง-การจัดซื้อตัวละ 9 แสน ตร.ด้วย ชี้เป็นการใช้อำนาจขัดหรือแย้งรธน. -เตรียมฟ้องศาลปกครองเพิกถอนใช้อำนาจทางปกครองด้วย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2560 สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมฯ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบโครงการจัดหาเครื่องจับความเร็วแบบพกพา เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตามที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดหา จำนวน 849 เครื่องวงเงิน 573,075,000 บาท เฉลี่ยตกราคาเครื่องละ 6.75 แสนบาท
โดยระบุว่าเป็นโครงการที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการตั้งราคาซื้อสูงกว่าที่มีขายในอินเตอร์เน็ตและท้องตลาดทั่วไปหลายเท่าตัว จงใจตั้งสเปคเครื่องหรือข้อกำหนดไว้ให้สูงเกินสมควร ไม่สอดคล้องกับการนำมาปฏิบัติได้จริงในพื้นที่เป้าหมาย ขณะที่จากการสอบเทียบเคียงราคาซื้อ-ขายของเครื่องตรวจจับความเร็วระบบแสงเลเซอร์แบบมือถือ พบว่ามีราคาต่ำกว่าราคาเสนอไว้อย่างมาก แต่กลับตั้งข้อเสนอและอนุมัติให้จัดซื้อจัดหาไว้ที่เครื่องละ 675,000 บาท แพงกว่าราคาทั่วไปถึง 2-3 เท่าตัว ถือเป็นการใช้อำนาจขัดหรือแย้งต่อมาตรา 62 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และขัดต่อมาตรา 3/1 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 พ.ศ.2545
เบื้องต้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรม ได้ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบว่า 1. ปภ. มีอำนาจหน้าที่ในการตั้งเรื่องขออนุมัติงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพาหรือไม่ 2. มีการเสนอและอนุมัติของบประมาณจัดซื้อสินค้าที่แพงกว่าท้องตลาดทั่วไป 2-3 เท่าตัว 3. การจัดซื้อของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ก่อนหน้านี้ ในราคาเครื่องละ 900,000 บาท เป็นการจัดซื้อที่แพงกว่าท้องตลาด เป็นการใช้อำนาจจัดซื้อจัดหาที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ อย่างไร 4. การที่นายกฯ อนุมัติใช้งบกลาง ที่ไม่ใช่เหตุเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงบกลาง เป็นการใช้อำนาจไม่ชอบในการอนุมัติ ตามพ.ร.บ.วิธีงบประมาณ พ.ศ. 2502 และแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร
นอกจากนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยังระบุว่าจะเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง เพื่อให้มีคำพิพากษาเพิกถอนการใช้อำนาจทางปกครองกรณีนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ครั้งนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยังได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กรณีการแต่งตั้ง นางมยุระ ช่วงโชติ บุตรสาวของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. และสมาชิก คสช. ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ซึ่งอาจถือว่าเป็นการใช้อำนาจโดยคำสั่งหรือการกระทำของหน่วยงานของรัฐตามรัฐธรรมนูญหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และการกระทำอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน และมีความผิดเกี่ยวกับประมวลจริยธรรมด้วย