กรมชลฯโต้ข่าวลือปล่อยน้ำท่วมรังสิตไม่จริง ยันระดับน้ำยังคุมได้
กรมชลประทาน แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความแจ้งเตือนว่า มีการปล่อยน้ำท่วมรังสิตไม่จริง ชี้น้ำสูงในระดับคุมได้ ยันปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ยังไม่ส่งผลต่อกรุงเทพและปริมณฑล
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 60 ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทานประกาศชี้แจงว่าจากข้อความที่ได้มีการแชร์กันมากในโลกโซเซียลมีเดีย กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความแจ้งเตือนว่า ที่รังสิตจะมีการปล่อยน้ำหลังวันที่ 26 ต.ค. นี้ ทั่วย่านรังสิตจะเกิดน้ำท่วมและน้ำล้นฝาท่อระบายน้ำได้นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
กรมชลประทาน ยังคงปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ลบ.ม./วินาที) มาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 60 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน(27 ต.ค. 60) เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำในอัตราเท่าเดิม โดยได้ผันน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเข้าสู่ระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกรวม 769 ลบ.ม./วินาที ไม่มีแผนที่จะเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด
ปัจจุบันปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราดังกล่าว ได้ไหลมาถึงบริเวณจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครแล้ว โดยไม่ได้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ พื้นที่น้ำท่วมด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอพรมบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 14 จุด เท่านั้น อีกทั้ง ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C.29A อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ย 2,826 ลบ.ม./วินาที ยังต่ำกว่าความจุของลำน้ำมาก(บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) จึงไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริเวณสถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 2,979 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังจากที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 60 ในอัตรา 3,059 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำลดลงเมื่อเทียบกับค่าสูงสุด 80 ลบ.ม./วินาที และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกรณีของคลองรังสิตนั้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ระบุว่า เนื่องจากต้องแบ่งเบาปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ที่จะระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านเขื่อนพระรามหก ด้วยการเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์มากขึ้น ส่งผลให้น้ำในคลองต่างๆ รวมถึงคลองรังสิต มีระดับน้ำสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เนื่องจากในคลองเหล่านี้ จะมีอาคารบังคับน้ำ สถานีสูบน้ำที่จะควบคุมปริมาณน้ำ และระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ โดยไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม สามารถแจ้งข้อมูลหรือติดต่อสอบถามได้ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ เบอร์โทรศัพท์ 02- 5312913