เครือข่ายอันดามันฯแถลงนักปกป้องทรัพยากรไม่ใช่อาชญากร เหตุแกนนำโดนกฟผ.ฟ้องหมิ่น
เครือข่ายปกป้องอันดามันฯ แถลงไม่ยอมให้ นักปกป้องทรัพยากรแผ่นดิน ต้องเป็นอาชญากร เหตุ กฟผ.ฟ้องหมิ่นประมาท ประสิทธิชัย หนึ่งในแกนนำ หลังโพสต์วิพากษ์ปมโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
สืบเนื่องจากกรณีที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ฟ้องหมิ่นประมาทต่อนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน 2 ข้อหาจากการโพสต์เฟซบุ๊ค วิพากษ์กระบวนการผลักดันถ่านหินต่อสาธารณะซึ่งทาง กฟผ.ได้อ้างว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวนั้นทำให้องค์กรได้รับความเสียหาย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับรายงานว่า ทางเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้มีแถลงการณ์ระบุถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า การเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ คือการสร้างการตื่นรู้ต่อประชาชน การให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ใช่การยัดเยียดครอบงำแต่อย่างใด เพราะการพูดข้อมูลความจริงคือเครื่องมือการต่อสู้ของประชาชนที่ทรงพลัง ถ้าหากวันนี้เราต่างพูดความจริง ฟังกัน มากกว่าการยัดเยียด การใช้เครื่องมือฟ้องร้องทำให้ประชาชนยอมจำนน มันก็จะไม่เกิดขึ้น
“การพูดความจริงเพื่อการปกป้องแผ่นดินเกิด เป็นสิทธิอันพึงมีของประชาชน แต่หากที่ผ่านมาการปกป้องแผ่นดินเกิดของประชาชน จุดจบคือการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถูกทำให้เป็นอาชญากร เพียงเพราะคำว่าทำให้องค์กรเกิดความเสียหาย แต่กลับกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการผลักดันโครงการในพื้นที่ ประชาชนไม่เคยฟ้องร้องให้องค์กรนั้นชดเชยความผิดเหล่านั้นเลย ทั้งๆ ที่เกิดความเสียหายขึ้นจริงทุกหย่อมหญ้าของสังคม”
เครือข่ายฯ ระบุด้วยว่า พวกเราไม่อาจยอมให้ ผู้ปกป้องทรัพยากรของแผ่นดิน ต้องกลายเป็นอาชญากรทางสิ่งแวดล้อม ด้วยการพูดความจริงเปิดเผยต่อสาธารณะ การพูดความจริงต้องเป็นบรรทัดฐานของการพัฒนา เพราะการพัฒนาควรเริ่มต้นจากการมีส่วนร่วม ไม่ใช่เกิดจากความคิดเห็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นหากการพูดเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิด นำมาซึ่งการถูกฟ้องร้องอาจจะถึงเวลาเวลาที่ประชาชนผู้ตื่นรู้ จะต้องออกมาทวงสิทธิของประชาชนกลับคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด้านนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สภ.บางกรวย จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่16 ตุลาคม 2560 ในคดีที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามมาตรา 328 ของประมวลกฎหมายอาญา จำนวน 2 คดี จากการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 และ 13 มกราคม 2560 หลังจากการรายงานตัวประสิทธิ์ชัยได้นัดส่งคำให้การเป็นการลายลักษณ์อักษรอีกครั้งในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560
ด้านโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนหรือ iLaw เปิดเผยว่าในเดือนมีนาคม 2560 เคยมีรายงานข่าวว่า กฟผ. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนรวม 15 คดี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งนายประสิทธิ์ชัยเป็นคนแรกที่ตำรวจเรียกไปรายงานตัว ตามการแจ้งความของกฟผ.
ด้าน นายประสิทธิ์ชัย ได้กล่าวถึงกรณีโดนฟ้องครั้งนี้ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คดี สำคัญกว่านั้นคือ การฟ้องครั้งนี้เพราะขบวนการถ่านหินนั้น ไม่ยินยอมให้เกิดจุดจบถ่านหินในประเทศไทยเพราะมูลค่ามหาศาลที่สัมปทานถ่านหินไว้แล้วในอินโดนีเซียนั้น จะขาดทุนอย่างย่อยยับ หลังจากทั่วโลกมีนโยบายชัดเรื่องการ ลดและหยุดใช้ถ่านหิน โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา สัดส่วนการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นคงอยู่ในอาเซียน ถ่านหินที่ระบายไม่ได้ในต่างประเทศ จึงต้องหาทางยัดเยียดเข้ามาในประเทศไทย โดยมีคนไทยเป็นผู้รองรับมลพิษ ความตายของผู้คนและหายนะสิ่งแวดล้อมไม่เคยอยู่ในสายตาของรัฐบาลอยู่แล้ว
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากเว็บไซต์ BBC Thai