โชว์หนังสือรองอธิบดี หัก‘ดีเอสไอ-กมธ.สภาฯ’ไม่เพิกถอนโฉนด จ.กระบี่ 33 แปลง
เปิดหนังสือ รองอธิบดีกรมที่ดิน สวนทาง กมธ.สภาฯ ไม่เพิกถอนโฉนด จ.กระบี่ 33 แปลง อ้างเจ้าของทำ ปย.ต่อเนื่อง แปลงข้างเคียงลงนามรับรองแนวเขตครบ ลาดชันไม่เกิน 35% ข้อมูลยังไม่ชัด รอสำนักงานพัฒนาที่ดินชี้ แม้ดีเอสไอยันออกมิชอบ ชง ป.ป.ช.สอบ
กรณีการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ จำนวน 51 แปลงตามรายงานผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า เป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีความเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ในข่ายทุจริตจำนวน 5 คน และผู้เกี่ยวข้องในการนำเจ้าหน้าที่รังวัดอีกประมาณ 23 คน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งเรื่องให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนเอาผิดตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 2552 และส่งเรื่องให้ อธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนโฉนด ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 33 แปลง เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2551 แต่ทว่าปัจจุบันยังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ และกระบวนการบังคับใช้กฎหมายในการเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐและผู้สนับสนุน ยังไปไม่ถึงศาลยุติธรรม หลังจากมีผู้ร้องเรียนตั้งแต่ปี 2551
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำหนังสือของนายมงคล อินทสุวรรณ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมที่ดิน ฉบับลงวันที่ 25 มี.ค.2553 ถึง ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวารุจ ศิริวัฒน์) สภาผู้แทนราษฎร ที่ขอให้กรมที่ดินพิจารณาเร่งรัดการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าวโดยไม่ต้องรอการชี้แนวเขตจากกรมป่าไม้ เพื่อที่กรมป่าไม้จะได้ดำเนินการฟื้นคืนสภาพป่าที่ถูกบุกรุกทำลายโดยเร็วต่อไป (ประธาน กมธ.การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ทำหนังสือส่งถึงอธิบดีกรมที่ดินให้เพิกถอนโฉนดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2553)
กรมที่ดินให้เหตุผลสรุปว่า
1.จากการตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินทั้ง 33 แปลง ปรากฎการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอย่างต่อเนื่อง เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงลงนามรับรองแนวเขตครบ ผู้ปกครองท้องที่รับรองว่าไม่เป็นที่หลวงหวงห้าม หรือที่สาธารณประโยชน์แต่อย่างใด ในระหว่างประกาศแจกโฉนดที่ดินไม่ปรากฎว่ามีการโต้แย้งคัดค้าน และจากการตรวจสอบศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่-พังงา ฉบับลงวันที่ 27 ก.ย.2548 เจ้าหน้าที่ได้รายงานเสนอต่อผู้อำนวยการเดินสำรวจฯเพื่อลงนามในโฉนดที่ดินว่า บริเวณออกโฉนดไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ที่สาธารณประโยชน์ ที่สงวนหวงห้าม หรือทรัพย์สินของแผ่นดินแต่อย่างใด และไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงยังไม่ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้
2.กรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมาธิการการที่ดินฯ ว่าสภาพที่ดินของโฉนดทั้ง 33 แปลง เป็นที่เขาหรือภูเขา มีความลาดชันโดยเฉลี่ยเกิน 35% ขึ้นไป ซึ่งตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ข้อ 27 กำหนดพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปไว้เป็นป่าไม่ และประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง กำหนดบริเวณที่หวงห้าม ตามมาตรา 9 (2) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่จากการตรวจสอบเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินทั้ง 33 แปลง ระบุว่า ไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% จึงเห็นว่า ข้อมูลยังขัดแย้งกันอยู่ และในประเด็นนี้จังหวัดกระบี่ยังไม่ได้แจ้งผลการตรวจสอบให้กรมที่ดินทราบแต่อย่างใด กรมที่ดินจึงได้แจ้งให้จังหวัดกระบี่ ประสานงานกับสำนักงานพัฒนาที่ดินในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อขอทราบว่าบริเวณที่ออกโฉนดที่ดินทั้ง 33 แปลงดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% หรือไม่ และให้หมายสีแสดงตำแหน่งโฉนดที่ดินลงในแผนที่แสดงพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% พร้อมทั้งให้หมายสีแสดงตำแหน่งโฉนดที่ดินและแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้ดำเนินการขีดเขตป่าสงวนแห่งชาติใหม่แล้ว ลงในสำเนาระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ เพื่อประกอบการพิจารณาของกรมที่ดินด้วยแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ (ดูเอกสารประกอบ)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้ วันที่ 17 ก.พ.2553 ประธาน กมธ.การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ทำหนังสือส่งถึงอธิบดีกรมที่ดิน ขอให้กรมที่ดิรเร่งรัดการเพิกถอนโฉนดที่ดินจำนวน 33 แปลง เนื้อที่ 100 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา ตั้งอยู่ในท้องที่ ตำบลหนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่างนางและป่าหางนาค และเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% ขึ้นไป
ขณะที่ หนังสือของรองอธิบดีกรมที่ดินฉบับลงวันที่ 25 มี.ค.2553 มีขึ้นภายหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งเรื่องถึงอธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินเมื่อ วันที่ 26 พ.ย. 2551 และภายหลังจาก ดีเอสไอส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบสวนเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2552
และมีขึ้นก่อนคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ รายงานผลการสอบสวนต่ออธิบดีฯ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2554
อ่านประกอบ:
ดูเพลินๆ ภาพถ่ายดาวเทียมที่ดิน อดีต ส.ส.-นักธุรกิจ จ.กระบี่ ‘สีเขียว’พรึบเต็มแปลง
เปิดผลสอบโฉนด จ.กระบี่ 51 แปลง ฉบับกรมที่ดิน ชัด อดีต ส.ส.อยู่ในป่าสงวน
อดีต ส.ส.ปชป.รับที่ดินกระบี่ 2 ไร่ถูกดีเอสไอสอบเป็นของตัวเอง-ร่วมหุ้นเพื่อนซื้อหลายแปลง
‘ให้ระวังตัวเองดีๆ’อธิบดีกรมที่ดินสั่ง‘ผู้ร้อง’หลังรู้ชื่อขาใหญ่ออกโฉนดในป่า จ.กระบี่
เปิดชื่อ 23 คนยื่นออกโฉนด 33 แปลงบนเขา จ.กระบี่ สกุลดัง-อดีต ส.ส.ปชป.เจ้าของ
วิวสวย ป่าสมบูรณ์! ‘อิศรา’ลงพื้นที่ บ้านทับแขก จ.กระบี่ ออกโฉนดบนเขา 51 แปลง
เปิดผลสอบดีเอสไอมัดโฉนด 31 แปลง จ.กระบี่ อยู่บนเขา- ซี 7 กับพวก 5 คนส่อทุจริต
ฮุบที่ดินริมหาด จ.กระบี่ ออกโฉนด 200 ไร่ 1,000 ล. ร้องคดีไม่คืบ - 5 จนท.เอี่ยว