โชว์หนังสือ สตช.ยุค‘ประวุฒิ’ขอ ปภ.สนับสนุน เบื้องหลังซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว957ล.
เบื้องหลัง ครม.ไฟเขียวจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็ว 1,064 เครื่อง เฉลี่ยตัวละ 9 แสน วงเงินกว่า 957 ล้าน วงประชุม กก.ปภ. ต้นปี’58 ต้นเรื่องก่อน สตช. ชงขอรับงบสนับสนุนจัดซื้อ ทิ้งท้าย ‘ขอบคุณ-หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนด้วยดีเช่นเคย’
จากกรณีสื่อมวลชนหลายสำนักอ้างรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่า คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการ และ ผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย จับหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบกพกพา จำนวน 1,064 เรื่อง ราคาเครื่องละ 9 แสนบาท เป็นเงิน 957,600,000 บาท เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการบังคับใช้กฎหมายสำหรับทุกสถานีตำรวจจำนวน 1,465 แห่งนั้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า การขออนุมัติงบประมาณดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 ผ่านการประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยครั้งที่ 1/2558 ช่วงเดือน ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งใน ปภ. เป็นผู้เสนอแนวคิดดังกล่าว และทำหนังสือไปยัง สตช. ขอให้ยืนยันความจำเป็นในการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วดังกล่าวเพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุทางถนน อย่างไรก็ดีขณะนั้นยังไม่ได้ระบุวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อแต่อย่างใด โดยเสนอไปพร้อมกับการขอจัดซื้อเครื่องตรวจจับแอลกอฮอล์ จำนวน 2,930 เครื่อง ที่ปัจจุบันอนุมัติงบประมาณไปแล้ว รวมวงเงินกว่า 199 ล้านบาท เฉลี่ยเครื่องละ 6.8 หมื่นบาท (เบื้องต้นเสนอเครื่องละ 8 หมื่นบาท)
ก่อนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีมติอนุมัติการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา โดยใช้งบประมาณ ปภ. สนับสนุน สตช. เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยวางกรอบวงเงินไว้เครื่องละ 9 แสนบาท รวม 1,064 เครื่อง เป็นเงินรวมกว่า 957 ล้านบาท
ตามหนังสือของ สตช. ลงวันที่ 28 เม.ย. 2558 ลงนามโดย พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. (ขณะนั้น) ทำเรื่องขอสนับสนุนเครื่องตรวจจับความเร็ว เรียนอธิบดี ปภ. (นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ขณะนั้น ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย) สรุปรายละเอียดได้ ดังนี้
ตามที่ สตช. เคยขอรับการสนับสนุนเครื่องตรวจจับความเร็วเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานตามมาตรการบังคับใช้กฏหมายไปแล้วนั้น แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนนมีความรุนแรง และเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง ตามสถิติข้อมูลที่ สตช. ได้รับมาจาก ปภ. ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุในเรื่องการขับรถเร็วเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นอันดับแรก ขณะนี้ สตช. ขอเรียนว่า จำนวนเครื่องตรวจจับความเร็วที่มีใช้งานอยู่ทั่วประเทศไม่เพียงพอ จึงอาจเป็นสาเหตุให้การบังคับใช้กฎหมายเรื่องความเร็วนั้นยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ
สตช. จึงใคร่ขอรับการสนับสนุนเครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อมอบให้ตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉลี่ยตามความเหมาะสมเน้นให้ครอบคลุมพื้นที่จุดเสี่ยง และจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทาง สตช. มั่นใจว่า เมื่อได้เครื่องตรวจจับความเร็วจำนวนที่ขอมานั้น เชื่อได้ว่า สามารถป้องกัน และแก้ไขปัญหาเกิดอุบัติเหตุในเรื่องของการขับรถเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายนี้ สตช. ขอขอบคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการพิจารณาอนุเคราะห์ และสนับสนุนด้วยดีเช่นเคยเหมือนอย่างที่ผ่านมาโดยตลอด
หนังสือดังกล่าว ระบุว่า ขอให้ ปภ. สนับสนุนเครื่องตรวจจับความเร็ว แบ่งเป็น 2 ประเภท เครื่องชนิดติดตั้งรวม 536 เครื่อง และชนิดพกพารวม 1,064 เครื่อง โดยเฉพาะเครื่องชนิดพกพานั้น จัดสรรให้จังหวัดที่มี 10 อำเภอขึ้นไป จังหวัดละ 14 เครื่อง รวม 38 จังหวัด 532 เครื่อง จังหวัดที่มี 5-9 อำเภอ จังหวัดละ 10 เครื่อง รวม 34 จังหวัด 340 เครื่อง จังหวัดที่ไม่ถึง 5 อำเภอ มี 4 จังหวัด จังหวัดละ 9 เครื่อง รวม 16 เครื่อง และสถานีตำรวจทางหลวง 49 แห่ง แห่งละ 4 เครื่อง รวม 176 เครื่อง (ดูเอกสารประกอบ)
อ่านประกอบ :
ปภ.ซื้อแล้วเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ใหม่2,930 เครื่อง199 ล.-เฉลี่ยตัวละ6.8หมื่น
‘บิ๊กป๊อก’จัดให้! เบื้องหลัง มท.ซื้อเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ 234 ล.รับมือปีใหม่
แพร่ประกาศทางการ! ปภ.ซื้อแน่เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตัวละ 8 หมื่น