สตง.จี้ธนารักษ์ทบทวนเช่าที่มูลนิธิปริยัติฯพระสังฆราช10ไร่ เหตุไม่ใช้ปย.-ปล่อยบุกรุกเพียบ
สตง.สรุปรายงานผลสอบการบริหารงานที่ราชพัสดุหลายจังหวัด พบปัญหาเพียบ ผู้เช่าปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา ปล่อยเช่าช่วงต่อ เผยความเห็นแจ้งธนารักษ์กำแพงเพชร สั่งทบทวนเช่าที่มูลนิธิปริยัติฯ10ไร่ เหตุไม่ได้ใช้ปย.-ปล่อยคนบุกรุกสร้างบ้านพักเพียบ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สรุปรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานบริหารจัดการที่ราชพัสดุ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ (สธพ.) หลายจังหวัด พบปัญหาสำคัญหลายประการ อาทิ ผู้เช่าปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา ไม่มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ มีการนำที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์อื่น หรือปล่อยเช่าช่วงต่อ รวมถึงกรณีองค์กรหรือหน่วยงานบางแห่งเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่โดยที่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าและจัดเก็บค่าเช่าทำให้รัฐได้รับความเสียหาย โดยในรายงานผลการตรวจสอบมีการระบุถึงกรณีองค์การมูลนิธิปริยัติศึกษา ญสส. ในพระสังฆราชูปถัมภ์ รวมอยู่ด้วย
สตง. ระบุว่า ในส่วนของสธพ.กำแพงเพชร มีการตรวจสอบพบว่า องค์การมูลนิธิปริยัติศึกษา ญสส. ในพระสังฆราชูปถัมภ์ มีการใช้ประโยชน์จากที่ดินไม่ครบถ้วนและเกิดปัญหาการบุกรุก โดยได้เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุแปลงทะเบียนกพ.196 อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เนื้อที่เช่ารวม 10,135.00 ตารางวา (25–1–35 ไร่) แบ่งเป็น 3 แปลง ดังนี้แปลงที่ 1 เนื้อที่ 7–2–39 ไร่ แปลงที่ 2 เนื้อที่ 7–0–10 ไร่ และแปลงที่ 3 เนื้อที่ 10–2–86 ไร่ สัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา 20 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 ถึง 31 ธันวาคม 2560 ได้มีการเสียค่าธรรมเนียมในอัตราค่าเช่าเหมาจ่ายที่ต่ำเป็นกรณีพิเศษเดือนละ 100 บาท หรือปีละจำนวน 1,200 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตการณ์พบว่าองค์การมูลนิธิฯ ใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุสำหรับการปลูกสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์และปลูกต้นไม้ในพื้นที่เช่าแปลงที่ 1 และแปลงที่ 2 เท่านั้น สำหรับแปลงที่ 3 ซึ่งอยู่ด้านหลังพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติยังมิได้มีการใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีประชาชนบุกรุกเข้าปลูกสร้างบ้านเรือนเต็มพื้นที่แต่ สธพ.กำแพงเพชร ไม่สามารถเข้ามาดำเนินการจัดให้ประชาชนที่บุกรุกได้เข้าระบบการเช่าตามระเบียบได้โดยแจ้งว่าเนื่องจากสัญญาเช่าขององค์การมูลนิธิฯ ยังไม่หมดอายุ
สตง.จึงเห็นสมควรให้ สธพ.พิจิตร ทบทวนการเช่าที่ราชพัสดุ แปลงที่ 3 เนื้อที่เช่า 10–2–86 ไร่ ซึ่งมูลนิธิฯ ไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์เพื่อทำกิจกรรมใดๆ ตั้งแต่ทำสัญญาเช่า ประกอบกับมีปัญหาประชาชนบุกรุกโดยเข้ามาปลูกสร้างบ้านพักอาศัยเต็มพื้นที่มานานแล้ว โดยอาจนำแนวทางตามหนังสือสั่งการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ นร 0405(ลร.1)/พว.203 ลงวันที่ 18 เมษายน 2559 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายกับผู้บุกรุกที่ราชพัสดุมาใช้โดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้มีการสอบถามถึงแผนการเข้าใช้ประโยชน์หรือการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ดังกล่าวหลังจากต่อสัญญาเช่า หากไม่มีแผนการใช้ประโยชน์ให้ สธพ.กำแพงเพชร อาจนำพื้นที่ดังกล่าวมาจัดหาประโยชน์โดยทำสัญญาเช่าเพื่ออยู่อาศัยตามระเบียบและหลักเกณฑ์ต่อไป