นักวิจัยเผยปชช.รับควันบุหรี่มือสองสูง27เท่า เห็นด้วยระเบียบห้ามสูบบนชายหาด
นักวิชาการเผย ประชาชนรับผลกระทบควันบุหรี่มือสองที่ชายหาดสูงกว่าปกติถึง 27 เท่า หนุนห้ามสูบบุหรี่ที่ชายหาดซึ่งเป็นที่สาธารณะ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับควันบุหรี่ทำลายสุขภาพ
เมื่อวันที่14 ต.ค.60 รศ.ดร.นิภาพรรณ กังสกุลนิติ อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้านักวิจัยโครงการศึกษาการได้รับสัมผัสควันบุหรี่มือสองของผู้ที่พักผ่อนในบริเวณชายหาด 2 แห่ง ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย ปีพ.ศ.2560 (ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Public Health, Oxford University Press, available online September 2017) ได้สำรวจการได้รับควันบุหรี่มือสองบริเวณชายหาดโดยการตรวจวัดปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก (2.5 ไมครอน) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงการได้รับสัมผัสควันบุหรี่มือสอง ที่บริเวณที่พักผ่อนใต้ร่มและเก้าอี้ผ้าใบ โดยจุดตรวจวัดอยู่ใกล้กับผู้สูบบุหรี่ในทิศทางใต้ลมของผู้สูบบุหรี่ ซึ่งผลการตรวจวัดใน 2 ชายหาด
โดยการวิจัยของรศ.ดร.นิภาพรรณ ได้พบว่า มีปริมาณฝุ่นขนาดเล็กมีค่าเฉลี่ย 260 และ 504 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และพบค่าสูงสุดถึง 716 และ 1,335 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานคุณภาพอากาศของประเทศไทยซึ่งกำหนดปริมาณฝุ่นขนาดเล็กไว้ที่ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร พบมีปริมาณฝุ่นขนาดเล็กสูงกว่ามาตรฐานกำหนดหลายเท่าสูงถึงประมาณ 27 เท่า ดังนั้นคุณภาพอากาศในบริเวณดังกล่าวจึงไม่เหมาะสมกับการเป็นชายหาดมีชื่อเสียงซึ่งผู้คนมาพักผ่อน และที่สำคัญเป็นการแสดงถึงการได้รับสัมผัสควันบุหรี่มือสองอย่างมาก
“จากการลงภาคสนามพบ พบเด็กจำนวนมากอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับมาตราการ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังเตรียมออกระเบียบห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณชายหาด เพื่อลดควันบุหรี่มือสองซึ่งทำลายสุขภาพด้วย” รศ.ดร.นิภาพรรณ กล่าว