กว่า 200 คดี!ลูกบ้าน ม.เพอร์เฟคฯ-พระราม9 ยื่นฟ้องแพ่ง บมจ.เจ้าของโครงการ ร่วมพันล.
ลูกบ้านโครงการ เพอร์เฟคมาสเตอร์พีซ พระราม 9 รวมตัวยื่นฟ้อง บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ต่อศาลแพ่งกว่า 200 คดีนับพันล. ปมใช้ประโยชน์ทางเข้า-ออกลอดใต้อุโมงค์ทางรถไฟ หลังเจรจานาน ถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ได้ข้อสรุป ล่าสุด ศาลแพ่งนัดไกล่เกลี่ย 17 ต.ค.นี้ ด้านผู้ประกอบการยังไม่ชี้แจง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านโครงการเดอะเพอร์เฟคมาสเตอร์พีซ พระราม 9 (บ้านเดี่ยว) บ้านหรูราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทถึง 60 ล้านบาท และลูกบ้านส่วนทาวน์โฮม เดอะเมโทร พระราม 9 กลุ่มหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 11–15 ก.ย. 2560 ได้รวมตัวกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ผู้จัดสรรโครงการ โดยมอบหมายให้สำนักงานกฎหมาย บริษัท เอนไลเทิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยื่นฟ้องคดีผู้บริโภคต่อศาลแพ่งมากกว่า 200 คดี แบ่งเป็นบ้านเดี่ยวกว่า 90 หลัง และทาวน์โฮมอีกกว่า 100 หลัง และศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีไว้แล้ว
โดยก่อนหน้านี้ มีกลุ่มลูกบ้าน 8 รายรวมตัวกันยื่นฟ้อง บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค โดยศาลได้มีคำพิพากษามาแล้วว่า ให้ทางบริษัทฯ ดำเนินการทำสัญญาเช่ากับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และจดทะเบียนภาระจำยอมให้ถูกต้องตามสัญญาฯ คดีดังกล่าวจึงเป็นการนำร่องให้กับลูกบ้านที่เหลือรวมตัวกันยื่นฟ้องคดีในครั้งนี้ ซึ่งประเด็นข้อพิพาท ส่งผลเสียหายให้กับลูกบ้านจำนวนมาก หลัก ๆ มี 5 ประเด็น ดังนี้
1.การทำสัญญาเช่าอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟกับ รฟท. อนุญาตให้บ้านในโครงการที่ปลูกบนเนื้อที่เพียง 49 ไร่เท่านั้นที่ผ่านเข้าออกอุโมงค์ดังกล่าวได้ ขณะที่ โครงการนี้มีพื้นที่จัดสรรทั้งหมด 200 กว่าไร่ โดย รฟท. มีเงื่อนไขว่าสามารถปิดทางเข้าออกผ่านอุโมงค์ได้ในกรณีที่ลูกบ้านที่อยู่นอกเหนือสัญญามาใช้ทางอุโมงค์ ซึ่งปัจจุบัน บมจ.ฯ ยังคงเพิกเฉย บ่ายเบี่ยงที่จะดำเนินการทำสัญญาเช่ากับ รฟท. และดำเนินการจดภาระจำยอมกับลูกบ้านให้ถูกต้องตามที่ได้มีการระบุในสัญญาจะซื้อจะขายกับลูกบ้าน
2.กรณี บมจ.ฯ ไม่จดทะเบียนภาระจำยอมให้กับลูกบ้านในการใช้ประโยชน์ที่ดินผ่านทางเข้า-ออกด้านหน้าโครงการกับถนนมอเตอร์เวย์ ส่งผลให้ บมจ.ฯ สามารถมาปิดทางเข้าออกดังกล่าวเมื่อไรก็ได้
3.กรณีที่ บมจ.ฯ มีการยื่นรายงานสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่จะดำเนินการปรับปรุงจัดทำถนนด้านหลังโครงการ ซ.พัฒนาการ 63 ให้มีขนาดกว้าง 8 เมตร เพื่อขอใบอนุญาตจัดสรรหมู่บ้านดังกล่าวนี้ แต่ความเป็นจริงก็ไม่ได้มีการดำเนินการปรับปรุง แต่อย่างใด
4.กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงผังจัดสรรโครงการฯ โยกย้ายสโมสรคลับเฮาส์ออก โดยบอกกับลูกบ้านในภายหลังว่า จะไม่ยกสโมสรฯ ให้กับนิติบุคคลหมู่บ้านแล้ว ซึ่งต่างจากตอนที่พนักงานขายอธิบายก่อนซื้อบ้าน
5.กรณีของการดูแลหมู่บ้าน และการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานของหมู่บ้านจัดสรรและกฎหมาย
ลูกบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า ได้ยื่นฟ้องให้ บมจ.ฯ ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ภายหลังจากที่ได้มีการพยายามเจรจาต่อรองมาเป็นเวลานานแล้ว ไม่มีทางอื่น จึงต้องมาขอพึ่งบารมีศาล และสื่อมวลชนในการให้ความเป็นธรรมแก่ลูกบ้านที่เดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าวของผู้ประกอบการด้วย เนื่องจาก ยอดเสียหายทั้งหมดโดยประมาณของลูกบ้านจำนวน 200 กว่าคดีนี้ รวมกันเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ผู้จัดสรรรายนี้เคยมีปัญหาข้อพิพาทประเภทเดียวกันนี้กับโครงการอื่นมาแล้วเช่นกัน อาทิ โครงการเพอร์เฟค เพลส สุขุมวิท 77
“ศาลแพ่งได้นัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยที่ศาลในวันที่ 17 ต.ค. 2560 นี้ ซึ่งจะมีทีมทนาย ตัวแทนจากลูกบ้านเข้ามาเพื่อรอดูว่าทาง บมจ.ฯ จะดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เนื่องจากในคดีที่มีการดำเนินการฟ้องก่อนหน้านี้ และศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว ทาง บมจ.ฯ บ่ายเบี่ยงที่จะเจรจา และคุยกับลูกบ้านโดยมีข้ออ้างต่าง ๆ นา ๆ ที่เอาเปรียบผู้บริโภคแต่เพียงฝ่ายเดียว”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2560 สำนักข่าวอิศราได้พยายามติดต่อ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่หมายเลข 02-245-6640ตามที่ระบุในเว็บไซต์ (http://www.pf.co.th/th/contact-us) เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงข้างต้นแล้ว จำนวนหลายครั้ง แต่ไม่มีใครรับสาย