ไทยไม่ใช่เศรษฐี-ซื้ออาวุธตามแผนงบประจำปี! ‘บิ๊กตู่’เผยคุย‘ทรัมป์’ปัดดีลกับใคร
‘ประยุทธ์’ เล่าปมไปคุย ‘ทรัมป์’ ยันไม่ได้มาดีลกับใคร ลั่นไทยไม่ใช่มหาเศรษฐี ซื้ออาวุธอยู่ในแผนงบประจำปีอยู่แล้ว สินค้าอเมริกาคุณภาพ แต่ต้องดูราคาก่อน ยันยังไม่พบเคลื่อนไหวไอซิสในไทย แค่ผ่านแดน 2-3 ครั้ง
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า การเดินทางมาปฏิบัติภารกิจ ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามคำเชิญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนของผู้นำอาเซียน คนที่ 3 เป็นการเยือนระดับนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 12 ปี ครั้งล่าสุดก็เมื่อเดือน ก.ย. 2548 นานมากแล้ว
“สำหรับในเรื่องการพัฒนาการเมืองไทย ผมได้ยืนยัน ท่านไม่ได้ถามอะไรผมหรอก ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้นะ ก็เป็นที่น่าแปลกใจนะ แสดงว่าท่านเข้าใจ เพราะฉะนั้นก็ได้ยืนยันว่าเราเดินหน้าตามโร้ดแมปของเรา จะมีการเลือกตั้งแน่นอนในปลายปีหน้า คำว่าเลือกตั้งก็คือการประกาศวันเลือกตั้งนะ จากนั้นก็ต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการต่ออีกประมาณ 150 วัน ก็ยืนยันไปตามนั้นตามโรดแมป” พล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาเรื่องทะเลจีนใต้นั้นก็เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความไว้เนื้อเชื่อใจ และความไว้วางใจระหว่างจีนกับอาเซียน ทางสหรัฐฯและอาเซียน ในนามอาเซียนก็ขอให้สหรัฐฯสนับสนุนบทบาทความเป็นกลาง แกนกลาง และความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน ในกาที่จะเจรจาแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ประเทศไทยก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องในเรื่องดินแดนอะไรต่าง ๆ แต่เราก็ต้องสนับสนุนในเรื่องของการทำให้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ
“ในส่วนของประเด็นเกาหลีเหนือ อันนี้เป็นประเด็นร้อน ก็ไม่ได้เป็นการคาดคั้นอะไรกัน เพียงแต่ว่าได้สอบถามความคิดเห็นของเรากับเกาหลีเหนือ ไทยเองก็ยืนยันว่าเราต้องการเห็นความสงบในคาบสมุทรเกาหลี การแก้ปัญหาที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง และก็พร้อมที่จะร่วมมือกับสหรัฐ และประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อจะผลักดันให้เกาหลีเหนือนั้นกลับไปสู่โต๊ะเจรจา มากกว่าที่เราจะไปสู่ความรุนแรงระหว่างกัน อันนี้ก็ต้องหารือกันต่อไป ประเทศไทยก็ได้ทำตามพันธะสัญญา มติสหประชาชาติทั้งสองข้างไปแล้ว หลายอย่างเราก็ริเริ่มเอง อาทิ การลดความร่วมมือ การลดการควบคุมในเรื่องของการทำงานต่าง ๆ ก็น้อยมาก อันนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญนะ ในประเด็นร้อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคง ไทยยืนยันถึงความสำคัญของการฝึกคอบบร้าโกลด์ ซึ่งมีการฝึกร่วมกันมาถึง 35 ปีแล้ว มี 28 ประเทศที่ร่วมทำการฝึก แล้วเราก็ต้องการความร่วมมือจากสหรัฐในด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีป้องกันประเทศเพราะสหรัฐอมริกาเป็นประเทศชั้นนำ ในเรื่องเหล่านี้ เราไม่ได้มีอาวุธเอาไว้เพื่อจะสู้รบกัน เรามีไว้เพื่อไม่ให้เกิดการรบกัน ทำให้ขาดศักยภาพทางสงครามเท่านั้นเอง ก็คิดว่ายังมีความจำเป็นอยู่
“ส่วนภัยการก่อการร้าย วันนี้ผมก็ยืนยันว่ายังไม่พบการเคลื่อนไหวของไอซิสในประเทศไทย แม้จะมีข่าวอยู่บ้าง ก็เป็นเรื่องของการลักลอบหรืออะไรทำนองนี้ ยังไม่มีเรื่องของการใช้อาวุธ ไม่มีเรื่องของการแสดงตัวออกมา มันก็เหมือนการผ่านแดนอะไรหรือเปล่า รู้สึกจะพบอยู่ครั้ง สองครั้ง แต่มีเพียงแต่เป็นชื่อ สำหรับในประเทศไทยเองก็ยังไม่มีใครที่จะไปร่วมการสู้รบ อาจจะเห็นในเว็บไซต์ ซึ่งวันนี้คนจะเขียนอะไรก็ได้ในเว็บไซต์ เราก็ไม่ได้มีการติดตาม เราก็ไม่เกี่ยวข้อง บางที่เอาสนุกก็เขียนไปเรื่อยๆ ใครชวนอะไรก็เห็นด้วยไปหมด วันนี้ต้องระมัดระวังการใช้โซเชียล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้สหรัฐได้ดูแลในเรื่องของสินค้าเกษตรของไทยให้มากขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนต่างตอบแทนกันในเรื่องสินค้าเกษตร ผลไม้ ก็คือการหารือในภาพกว้างไปแล้ว จากนั้นคณะทำงานต้องมาทำต่อทุกเรื่อง ผู้นำเขาก็จะพูดในเรื่องหลักการ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง แต่ในส่วนของการทำงานก็จะมีคณะทำงานที่จะต้องพูดคุยกันในรายละเอียด ว่าทำได้ ไม่ได้ ทำไม่ได้ต้องแก้ยังไง มีอุปสรรคตรงไหน
“การมาครั้งนี้หลายคนอาจจะมองว่า เอ๊ะ ผมมาดีลกับใคร หรือจะมาซื้ออาวุธ ถ้าคิดอย่างนี้มันก็ไม่ได้ละมั้ง ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศมหาเศรษฐีที่ไหน ที่มีเงินแล้วจะไปตกลงซื้ออะไรกับใครก็ได้ ทุกอย่างมันมีกระบวนการหมด ไม่ว่าจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ หรือสิ่งต่างๆ มันอยู่ในแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นการคัดเลือกอยู่ในกรรมวิธีซึ่งสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผมก็พูดคุย ท่านก็ยินดี เพียงแต่ต้องขอให้ดูแลในเรื่องของราคา ราคามันสูง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว