เกษตร อ.ขนอม การันตีสอบโครงการผลิตปุ๋ยหมัก9101 ไม่พบทุจริต-ชาวบ้านทำงานโปร่งใส
เกษตรอ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ยืนยัน 'อิศรา' อีกรอบ การันตีตรวจสอบโครงการผลิตปุ๋ยหมัก 9101 แล้ว ไม่พบปัญหาทุจริต การดำเนินงานเป็นไปด้วยความโปร่งใส มีเอกสารหลักฐานยืนยันผลงาน ระบุการคัดเลือกคนทำงานเป็นไปด้วยความเคร่งครัด ชาวบ้านร่วม กันเปิดบัญชีธนาคาร ในนาม 'กลุ่มปุ๋ยคุณภาพดี' ยอดเงินจำหน่ายปุ๋ยได้กว่า 6.4 หมื่นบ.
จากกรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านเพจ ต้องแฉ เกี่ยวกับปัญหาการดำเนินงานผลิตปุ๋ยหมักของชาวบ้านโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี ของชุมชนแห่งหนึ่ง ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะที่นายนที ศรีเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้ติดต่อมายังสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เพื่อชี้แจงกรณีข้อร้องเรียนดังกล่าว โดยยืนยันว่าการดำเนินงานโครงการ 9101 ในหมู่บ้าน เป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีปัญหาการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องหรือคนใกล้ชิดอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ไม่ได้นำโครงการเข้าที่ประชุมหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นรอยต่อของช่วงเวลาที่หมู่บ้านดังกล่าวไม่มีผู้ใหญ่บ้าน และเป็นโครงการเร่งด่วน (อ่านประกอบ : ผู้ใหญ่บ้านอ.ขนอมต่อสายแจง'อิศรา'ยันโครงการปุ๋ย9101ไม่มีเอื้อปย.พวกพ้อง-พร้อมให้ตรวจสอบ)
ล่าสุด นายเชิิดชัย ขนอม เกษตรอำเภอขนอม ให้สัมภาษณ์ชี้แจงข้อเท็จจริง สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เพิ่มเติม โดยยืนยันว่า การดำเนินงานผลิตปุ๋ยหมักของชาวบ้านโครงการ 9101 ที่ อำเภอขนอม เป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีปัญหาทุจริตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นโครงการสำคัญ ชาวบ้านร่วมใจกันทำงานโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยจากการติดตามผลการดำเนินงานโครงการผลิตปุ๋ยหมักคุณภาพดี ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน วังท๊อปไลน์ โดยมีนายอำนวย สดุกขำ เป็นประธานกลุ่ม ร่วมกับคณะกรรมการกลุ่ม ปรากฏว่าทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนวังท๊อปไลน์เคยได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ของสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2560 ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในพื้นที่ชุมชนตำบลควนทอง 1 ของโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มีการดำเนินโครงการ ทางหมู่บ้านได้ว่างเว้นผู้ใหญ่บ้าน เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านเกษียณอายุ ทำให้หมดวาระลง ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ และ กลุ่มอาชีพอื่นๆ ในหมู่บ้าน ได้ร่วมกันพิจารณาเสนอขอโครงการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะนำเข้าสู่ประชาคม ระดับชุมชน ทางกลุ่มได้เสนอโครงการ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี งบประมาณดำเนินการ 318,250 บาท เข้าสู่ประชาคมระดับชุมชน ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบ และ เข้าสู่การพิจารณา ของคณะกรรมการระดับอำเภอ มีค่าวัสดุจำนวน 138,250 บาท ค่าแรงงานจำนวน 180,000 บาท คิดเป็นค่าจ้างแรงงานสัดส่วน ร้อยละ 56.56 หลังจากผ่านคณะกรรมการระดับอำเภอและจังหวัดแล้ว ได้รับการอนุมัติจากสำนักงบประมาณ ให้โครงการนี้สามารถดำเนินการได้ทันที
ขณะที่ขั้นตอนการจัดหาวัสดุต้องเป็นไปตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ที่ผ่านการอนุมัติ จำนวน 138,250 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบการคัดเลือกแรงงานเข้ามาในการทำกิจกรรมตามโครงการ ทางกลุ่มได้ประกาศรับสมัครแรงงานเข้าร่วมโครงการตามที่เสนอไว้ตามแผนอย่างเคร่งครัด คือ จำนวน 30 ราย ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในชุมชนที่ร่วมโครงการครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ ส่วนบุคคลที่มีรายได้น้อย แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ก็จะมีหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือต่อไป และจำนวนแรงงานทั้ง 30 รายนั้นก็ได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสำนักงานเกษตรอำเภอขนอมเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะมีการจ้างแรงงาน
เกษตรอำเภอขนอม ยังระบุด้วยว่า การดำเนินโครงการผลิตปุ๋ยหมักคุณภาพดีตามโครงการ ได้ดำเนินการจัดซื้อ จัดหาวัสดุตามแผนโครงการที่ต้องหาจากพื้นที่ต่างถิ่น เนื่องจากโครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน นั้น มีการดำเนินกิจกรรมรูปแบบนี้เป็นจำนวนมากทั้งในพื้นที่ และ นอกพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้วัสดุในการทำปุ๋ยนั้นมีความคล้ายกัน เมื่อมีการจัดหาวัสดุครบถ้วนตามจำนวน ได้รับใบเสร็จรับเงิน และใบเบิกเงินแล้ว ทางกลุ่มจะต้องรวมรวมเอกสารทั้งหมด และมีการยื่นแบบเสียภาษี ภ.ง.ด.3 และ ภ.ง.ด.53 แก่กรมสรรพากรในพื้นที่ อัตราร้อยละ 1 มีใบเสร็จรับเงินจากกรมสรรพากรในพื้นที่ครบถ้วน กระบวนการทำปุ๋ยหมักนั้น ทางกลุ่มได้ใช้สูตรการทำปุ๋ยหมักคุณภาพดี ตามสูตรการทำปุ๋ยหมักของกรมพัฒนาที่ดิน ที่ได้ให้คำแนะนำไว้ ทางกลุ่มสามารถผลิตปุ๋ยหมักได้จำนวน 2,500 กระสอบ ได้ปุ๋ยหมักกว่า 60 ตัน จำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจ ราคากระสอบละ 50 บาท การจำหน่ายปุ๋ยได้มีการจดบันทึกรายรับไว้ในสมุดบัญชีกลุ่มอย่างละเอียด และร่วมกันเปิดบัญชีกับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ในนามกลุ่มปุ๋ยคุณภาพดี มีการฝากเงินจากการจำหน่ายปุ๋ยได้กว่า 64,000 บาท และมีปุ๋ยที่รอจำหน่าย ในโกดังอีกประมาณ 1,000 กระสอบ
การดำเนินจ้างแรงงานตามโครงการ มีการจ้างแรงงานทั้งสิ้น 30 ราย ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
นอกจากนี้ ในระหว่างที่มีการจ้างงาน แรงงานได้ลงลายมือชื่อเข้าทำงาน ในใบลงเวลาที่ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดได้กำหนด แรงงานมีการลงเวลาปฏิบัติงาน จำนวน 20 วัน มีคณะกรรมการกลุ่มเป็นผู้รวบรวบ ควบคุมการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด และดำเนินการส่งรายชื่อโอนเงิน ตามแบบ บช.11สมุดบันทึกค่าแรงงาน และตามแบบ บช.12 สรุปการจ่ายค่าแรงงาน เข้าบัญชีแรงงาน ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ให้กับแรงงานทุกคน จำนวน 4 รอบ รวม 20 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 180,000 บาท หลังเสร็จสิ้นโครงการที่ได้รับการสนับสนุน ทางกลุ่มจะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้านที่มี ผู้ใหญ่บ้าน คือ นายนที ศรีเมือง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับการแต่งแต่งใหม่ เพื่อดำเนินการต่อยอดผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ให้เกิดความยั่งยืนกับกลุ่ม และหมู่บ้านต่อไป
"หากใครมีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างของกลุ่มที่รวบรวมไว้หลังเสร็จสิ้นโครงการ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชตลอด" เกษตรอำเภอขนอมระบุ