กินไข่ต้ม ผัดฟักทองไปก่อน!จัดซื้ออาหารดิบผู้ต้องขังเกิน 50 ล. ผบ.เรือนจำไม่มีอำนาจ
ต้องรีบแก้ไขด่วน!จัดซื้ออาหารดิบผู้ต้องขัง วงเงินเกิน 50 ล. เกิดปัญหาเซ็นสัญญาผู้ชนะประกวดราคาไม่ได้ ผบ.เรือนจำไม่มีอำนาจ ต้องปลัดก.ยุติธรรม กรณีทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ต้องแก้เฉพาะหน้า จ่ายตลาดรายวัน งัดเมนู กินไข่ต้ม ฟักทองผัด ไปพลางก่อน อธิบดีทราบเรื่องแล้ว ล่าสุดพบปม หาผู้รับช่วงไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ภายหลังจากกรมราชทัณฑ์ได้ประกวดราคาจัดซื้อเครื่องบริโภคสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ 2561 ( 1 ต.ค.2560-30 ก.ย.2561) กำหนดอัตราถือจ่าย 44 บาทต่อคนต่อวัน สำหรับวงเงินเกิน 2 ล้านบาทขึ้นไป กำหนดให้ใช้ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e-bidding) ได้เกิดปัญหาขึ้นกับเรือนจำอย่างน้อย 2 แห่งที่มีวงเงินการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเกิน 50 ล้านบาท เนื่องจากเกินอำนาจผู้บัญชาการเรือนจำในการทำสัญญากับผู้ชนะประกวดราคา คือเรือนจำกลางนครราชสีมา และทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ทำให้ผู้บริหารทั้งสองแห่งต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการจัดซื้ออาหารวันต่อวันให้ผู้ต้องขังบริโภคไปพลางก่อน
แหล่งข่าวทัณฑสถานหญิงนครราชสีมาเปิดเผยว่า กรณีของทัณฑสถานหญิงนครราชสีมานั้น ภายหลังประกวดราคาและองค์การคลังสินค้าเป็นผู้ชนะที่วงเงิน 57.9 ล้านบาท (จากราคากลาง 68.5 ล้านบาท) ได้เกิดปัญหาไม่สามารถทำสัญญากับผู้ชนะ เนื่องจากวงเงินการจัดซื้อเกินอำนาจของผู้อำนวยการทันฑสถาน ซึ่งวงเงินดังกล่าวเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงยุติธรรม ทางทัณฑสถานจึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการให้อำนาจผู้อำนวยการอนุมัติงบจัดซื้อภายในวงเงินวันละไม่เกิน 50,000 บาทจัดซื้ออาหารมาปรุงเลี้ยงผู้ต้องขังที่มีอยู่เกือบ 4,000 คน ไปก่อน เช่น ซื้อไข่มาต้ม ซื้อฟักทองมาผัดไข่ ข้าวผัดไข่ ส่วนข้าวสารก็มีอยู่แล้ว ปรุงให้ผู้ต้องขังบริโภคแบบวันต่อวันแล้วแต่จะคิดได้ ซึ่งอาจไม่ครบไม่เป็นไปตามรายการว่าจะต้องบริโภคอะไรบ้างในแต่ละวันซึ่งผู้ต้องขังเองก็เข้าใจ ให้ขึ้นนอนโดยท้องไม่หิว
“ในการประกวดราคาผู้ชนะคือองค์การคลังสินค้าเมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว ทางเราแจ้งไปยังผู้ชนะว่าให้มาส่งอาหารก่อนได้ไหม ทางองค์การคลังสินค้าตอบว่าไม่สามารถจัดส่งได้เพราะยังไม่ได้ทำสัญญา และทางองค์การคลังสินค้าก็ยังหาผู้จัดส่งให้ไม่ได้ เราจึงต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตามอำนาจที่มี และได้รายงานให้อธิบดีกรมราชฑัณฑ์คนใหม่ (พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์) ทราบแล้ว”แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิด เป็นปัญหาข้อกฎหมายและการประกวดราคาก็ทำกันที่กรมบัญชีกลาง ฉะนั้นอยากให้สำนักข่าวอิศราเขียนข่าวให้ดีๆอย่าให้เรือนจำเดือดร้อน ตอนนี้ผู้บริหารของกรมฯและกระทรวงยุติธรรมก็ทราบเรื่องแล้วและกำลังเร่งแก้ไขมิให้ผู้ต้องขังเดือดร้อน
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันที่ 3 ต.ค.2560 ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังเรือนจำกลางนครราชสีมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับผู้บัญชาการเรือนจำ 2 ครั้ง ครั้งแรกผู้รับสายโอนไปยังเจ้าหน้าที่เลขานุการผู้บัญชาแจ้งว่า ผู้บัญชาการติดสายโทรศัพท์ให้โทร.มาอีกกครั้ง ต่อมาประมาณ 16.00 น.ผู้สื่อข่าวโทร.ติดต่ออีกครั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้บัญชาการยังติดสายและติดประชุม
สำนักข่าวอิศรารายงานว่าในการประกวดราคาจัดซื้ออาหารดิบปีงบประมาณ 2561 มีเรือนจำอย่างน้อย 11 แห่งที่ผู้ชนะประกวดราคา วงเงินเกิน 50 ล้านบาท ได้แก่ เรือนจำพิเศษมีนบุรี เรือนจำกลางขอนแก่น เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางนครราชสีมา ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำกลางอุดรธานี เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำกลางนครสวรรค์ เรือนจำกลางระยอง โดยเรือนจำกลางนครราชสีมา ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา และเรือนจำกลางขอนแก่น ผู้ชนะประกวดราคาคือ องค์การคลังสินค้า อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลว่าเรือนจำ 9 แห่ง (รวมเรือนจำกลางขอนแก่น) ซึ่งมีวงเงินจัดซื้อจัดจ้างเกิน 50 ล้านบาท มีปัญหาด้วยหรือไม่
ล่าสุดแหล่งข่าวจากผู้ประกอบการเปิดเผยว่า กรณีของของเรือนจำกลางนครราชสีมา และทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา นั้นน่าจะเกิดจาก ปัญหาระหว่างที่รอทำสัญญา ทางเรือนจำได้ตกลงจัดซื้อด้วยวิธีแบบเจาะจงกับองค์การคลังสินค้าไว้แล้ว แต่ อคส.หาผู้รับช่วงไม่ได้ ขณะที่เรือนจำอื่นที่มีวงเงินเกิน 50 ล้าน ก็ใช้วิธีซื้อแบบเจาะจงกับผู้ชนะประกวดราคาไปก่อน ไม่ได้มีปัญหาอะไร
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า การจัดซื้ออาหารดิบปีงบประมาณ 2561 เป็นปีแรกที่จัดซื้อโดยวิธีอี-บิ้ดดิ้ง เต็มรูปแบบ หลังจากก่อนหน้านี้กรมราชทัณฑ์ใช้วิธีจัดซื้อโดยกรณีพิเศษมาหลายปีซึ่งถูกร้องเรียนว่าเอื้อประโยชน์ให้หน่วยงานและผู้ค้ารายใหญ่บางราย
อ่านประกอบ:
แข่งขันหนัก! จัดซื้ออาหารดิบเรือนจำ 25 แห่ง ‘ผู้ชนะ’ต่ำกว่าราคากลางสูงสุด 51%