เจาะคำพิพากษา‘ยิ่งลักษณ์’จำนำข้าวทำชาติเจ๊งเท่าไหร่-ใช้งบเกิน5แสนล. จริงหรือ?
“…ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นโยบายดังกล่าวขาดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล มีการทุจริตเกิดขึ้นในทุกขั้นตอน แม้ว่าบางขั้นตอนอยู่ในฝ่ายปฏิบัติ ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้กรอบวงเงินเกิน 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง วงเงินไม่เพียงพอรับจำนำข้าวเปลือกตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และสำนักงบประมาณจัดสรรเพื่อชำระหนี้แก่ ธ.ก.ส. โดยไม่ต้องรอการระบายข้าว แต่สำนักงบประมาณไม่สามารถจัดสรรเงินให้ได้ เนื่องจากขัดรูปแบบการเงินของการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ…”
หลายคนคงทราบแล้วว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 5 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติต่อหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
นอกเหนือจากประเด็นสำคัญตามที่ศาลฎีกาฯพิเคราะห์คือ มีหนังสือเตือนจากองค์กรอิสระ-หน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ระบุถึงปัญหาความไม่ชอบมาพากล การแทรกแซงตลาดข้าว และการทุจริต
รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มีการทุจริต แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ดำเนินการตรวจสอบอย่างเอาจริงเอาจัง ยังปล่อยให้มีการทำสัญญาต่อไป 4 สัญญา ท้ายสุดเกิดการทุจริตจริง ชาติเสียหายหลายหมื่นล้านบาทแล้วนั้น (อ่านประกอบ : )
เรื่องการขาดทุนในโครงการนี้ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่การฟ้องร้องในคดี และศาลฎีกาฯได้พิเคราะห์ประเด็นนี้ด้วย ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปให้สาธารณชนรับทราบ ดังนี้
ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่า โครงการจำนำข้าวแม้คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานฯ ได้ออกมาตรการป้องกันการทุจริตแล้ว แต่ละขั้นตอนของการดำเนินการในฝ่ายปฏิบัติ ยังเกิดปัญหาการทุจริตทุกขั้นตอน ตามโครงการรับจำนำข้าวในอดีต ส่งผลให้กระทบต่องบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว สรุปภาระหนี้รวม 3 รอบบัญชี ได้แก่
หนึ่ง เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2555 ขาดทุน 3.2 หมื่นล้านบาทเศษ ใช้เงินไป 1.1 แสนล้านบาทเศษ ยอดหนี้คงค้าง 1.1 แสนล้านบาทเศษ
สอง เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556 ขาดทุน 2.2 แสนล้านบาทเศษ ใช้เงินไป 5.9 แสนล้านบาทเศษ ยอดหนี้คงค้าง 4.4 แสนล้านบาทเศษ
สาม เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2557 ขาดทุน 3.2 แสนล้านบาทเศษ ใช้เงินไป 5.6 แสนล้านบาทเศษ ยอดหนี้คงค้าง 4.7 แสนล้านบาทเศษ
ขณะที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีที่มีนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ครั้งนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2557 พบว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการใช้เงินงบประมาณรวม 5 ฤดูกาลผลิต ทั้งสิ้น 8.7 แสนล้านบาทเศษ
เท่ากับว่า โครงการรับจำนำข้าวทั้ง 5 ฤดูกาล มียอดเกินกรอบวงเงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นที่ 5 แสนล้านบาท (กระทรวงการคลัง 4.1 แสนล้านบาท และกู้ยืมเงิน ธ.ก.ส. โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน 9 หมื่นล้านบาท)
โดยพบว่า เมื่อเดือน พ.ค. 2556 มีการใช้จ่ายเกินวงเงิน 5 แสนล้านบาท สูงถึง 6.1 หมื่นล้านบาท ต่อมาเมื่อเดือน ก.ค. 2556 มีการใช้จ่ายเกินวงเงิน 5 แสนล้านบาท สูงถึง 3.9 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 มีการใช้วงเงินในโครงการรับจำนำข้าว 5 ฤดูกาลผลิต เกินกรอบวงเงินกว่า 1.98 แสนล้านบาทเศษ ทำให้ ธ.ก.ส. ต้องใช้เงินทุนสำรองจ่าย เนื่องจากต้องรอเงินจากกระทรวงการคลัง และเงินจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่า รายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ รวมถึงตัวเลขการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวถูกต้องหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อสู้ว่า รายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯดังกล่าว ไม่ได้รายงานปริมาณข้าวในคลังที่เหลือกว่า 9.8 ล้านตัน ทำให้ตัวเลขคลาดเคลื่อน ส่งผลให้ต้องปฏิเสธรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ เนื่องจากรายงานไม่ถูกต้องสมบูรณ์ ทั้งที่ความเป็นจริงเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 มียอดขาดทุนสะสม 5.1 แสนล้านบาทเศษ และผลขาดทุนดังกล่าวไม่ส่งผลต่อภาระงบประมาณประเทศ การเงินการคลัง หรือการใช้นโยบายรับจำนำข้าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อสู้อีกว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.คลัง ทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีว่า จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2556 โครงการรับจำนำข้าวใช้วงเงินไปทั้งสิ้นประมาณ 5.6 แสนล้านบาทเศษ ซึ่งไม่กระทบต่อแผนบริหารหนี้สาธารณะ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงกรณีนี้ยังแตกต่างกัน อย่างไรก็ดีปรากฏข้อเท็จจริงตามรายงานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯว่า โครงการรับจำนำข้าวมีผลขาดทุน และคณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.ฎ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546
แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อสู้ว่า โครงการรับจำนำข้าวส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจ เกษตกรได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม มีรายได้เพิ่มกว่า 2.8 แสนล้านบาทเศษ ผู้ประกอบการมีรายได้จัดตั้งธุรกิจ ภาครัฐจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น 0.62-0.69 และจากผลโพลล์รวมถึงผลการวิจัยชี้ว่า ชาวนาชื่นชอบนโยบายนี้มากกว่า 80% ซึ่งมากกว่าโครงการรับประกันราคาสินค้าเกษตรก็ตาม
ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นโยบายดังกล่าวขาดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล มีการทุจริตเกิดขึ้นในทุกขั้นตอน แม้ว่าบางขั้นตอนอยู่ในฝ่ายปฏิบัติ ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้กรอบวงเงินเกิน 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง วงเงินไม่เพียงพอรับจำนำข้าวเปลือกตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และสำนักงบประมาณจัดสรรเพื่อชำระหนี้แก่ ธ.ก.ส. โดยไม่ต้องรอการระบายข้าว แต่สำนักงบประมาณไม่สามารถจัดสรรเงินให้ได้ เนื่องจากขัดรูปแบบการเงินของการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า โครงการนี้ใช้วงเงินเกินกรอบกำหนด 5 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกันยังบ่งชี้ให้เห็นว่า กขช. ที่มีหน้าที่กำกับดูแล ติดตามนโยบายรับจำนำข้าวขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินโครงการ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธาน กขช. ให้นโยบายในการจำนำข้าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ ต้องบูรณาการ ปรับปรุง เกิดความสุจริต โปร่งใส ชอบธรรม และต้องชัดเจนแก่หน่วยงานที่ดำเนินการ
ดังนั้นหาก กขช. นำข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯรายงานเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบ ผลจะคุ้มค่า เกิดผลสัมฤทธิ์ในเชิงภารกิจรัฐมากกว่านี้
----
ในตอนหน้า มาดูกันชัด ๆ ว่า ปัญหาทุจริตการระบายข้าวจีทูจี เกี่ยวพันกับ ‘นารีขี่ม้าขาว’ อย่างไรบ้าง ?
อ่านประกอบ :
จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลฎีกาฯ พิพากษา 'ยิ่งลักษณ์' คดีจำนำข้าว
บรรทัดสุดท้ายคดีจำนำข้าว!ล้วงเหตุผลสำคัญไฉนศาลสั่งคุก5ปี‘ยิ่งลักษณ์’ละเลยปัญหาทุจริต?
โค้งสุดท้ายคดีข้าวชำแหละคำฟ้องอัยการ-กาง กม.วิเคราะห์เกม‘ยิ่งลักษณ์’กลับมา-หนีถาวร?
จารึกชื่อไว้ในแผ่นดิน!บทสุดท้ายอัยการชี้ ‘ปู’ลอยตัวเหนือปัญหาทั้งที่ชาติเสียหายไม่ได้
ไม้ตายสุดท้ายอัยการ!เปลือยจีทูจีเก๊-ไม่สอบ 'เสี่ยเปี๋ยง'ชนวนเอาผิด‘ปู’ ไม่ยับยั้งทุจริต
‘ยิ่งลักษณ์’ขอ ปชช.อย่ามาให้กำลังใจวันตัดสินคดีข้าว 25 ส.ค. ป้องเกิดเหตุจากผู้ไม่หวังดี
ยกบัญญัติUN!อัยการชี้ฟ้องคดี‘ปู’พ่วงทุจริตถูกแล้ว-บิ๊ก ป.ป.ช.บอกไร้โกงแค่เข้าใจไปเอง
คำแถลงอัยการปิดคดีข้าวยกคำท้วงติงสารพัดหน่วยงานชี้‘ปู’ไม่จริงจังป้องทุจริต-ชาติเสียหาย
ลำดับเหตุการณ์สอบจำนำข้าวฉบับอัยการ-ป.ป.ช. เร่งรัดส่งฟ้องตาม‘ปู’กล่าวหาจริงหรือ?
อัยการยันฟ้องถูกต้อง-ชี้ประเด็นเสียหายแล้ว หลัง‘ปู’งัดปมไร้หลักฐานทุจริตสู้คดีข้าว
คำแถลงอัยการปิดคดีข้าวยกคำท้วงติงสารพัดหน่วยงานชี้‘ปู’ไม่จริงจังป้องทุจริต-ชาติเสียหาย
เหมือนนำชาติเดิมพันความหายนะ!อัยการชี้ ‘ปู’รู้คำเตือนสารพัดหน่วยดี แต่ไม่หยุดจำนำข้าว
เจาะแฟ้มแถลงปิดคดีอัยการ!เบื้องหลังนำสำนวนจีทูจีเก๊รวมคดี‘ปู’-หัวใจสำคัญทำชาติเจ๊ง?
แม้วคิดปูทำ!อัยการชี้จำนำข้าวไร้งานวิจัยรองรับ แค่หาเสียงชาวนาเพื่อต้องการชนะเลือกตั้ง
คำแถลงอัยการปิดคดีข้าวยกคำท้วงติงสารพัดหน่วยงานชี้‘ปู’ไม่จริงจังป้องทุจริต-ชาติเสียหาย
ย้อนมหากาพย์จำนำข้าว(1):จากนโยบายช่วยชาวนาจนนายกฯถูกฟ้อง ทำขาดทุน-ชาติเสียหาย?
ย้อนมหากาพย์จำนำข้าว(2):อภิปรายจีทูจีฉาว-ป.ป.ช.ยกเหตุสอบเดี่ยว จุดตาย‘ยิ่งลักษณ์’?
ยกคำกล่าว'สัญญา ธรรมศักดิ์'แจงศาล! แถลงปิดคดีข้าว‘ปู’ฉบับเต็ม “ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิด"
ร่ำไห้กลางศาล!‘ปู’ครวญตกเป็นเหยื่อการเมือง-ขอตัดสินเป็นธรรมไม่ฟังคำชี้นำใคร
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก ประชาชาติธุรกิจ