'นิพิฐ' ยื่นศาลแพ่งให้ 'อิศรา' ลบข่าวผลตรวจสอบ 'ดีลอยท์' คดีปลูกปาล์มอินโดฯ
'นิพิฐ อิศรางกูรฯ' ยื่นศาลแพ่งขอคุ้มครองชั่วคราว ให้ 'อิศรา' ลบข่าวผลการตรวจสอบปลูกปาล์มอินโดฯ บริษัท ดีลอยท์ฯออกจากเว็บไซต์ อ้างทำให้คนเข้าใจผิดว่า ตนเองกระทำทุจริต เป็นตัวแทนของ ปตท.ในการแพร่ข่าว
จากกรณีที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท พีทีที.กรีนเอเนอร์ยี่ หรือ PTTGE เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นจำเลย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในฐานะผู้อำนวยการโครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์ม และปลูกปาล์มน้ำมัน 5 โครงการที่ประเทศอินโดนีเซีย ต่อศาลแพ่ง โดยเรียกค่าเสียหายทั้งสิ้น 624,850,887 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 20,307,653,844 บาท นั้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ศาลแพ่ง มีการสืบพยานในคดีดังกล่าวโดย ปตท. ได้นำพยานที่เป็นพนักงาน ปตท. ซึ่งดูแลโครงการปลูกปาล์มขึ้นเบิกความ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พยานจะขึ้นเบิกความ นายนิพิฐ(จำเลย) ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลกรณีสำนักข่าวอิศรานำเสนอข่าวว่า บริษัท HADISUMARTO&PARTNERS (HSP) ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายและธุรกิจ ประเทศอินโดนิเซีย ได้ทำหนังสือถึง นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตกรรมการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. ในช่วงเดือนม.ค. 2553 ซึ่งตรวจสอบพบการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลของผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่ง รวมถึงการนำเสนอข่าวผลการตรวจสอบของบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด (บริษัทลูกของ Deloitte Touche Tohmatsu ) โดยจำเลยขอให้ศาลมีคำสั่ง ปตท., พีทีที กรีนเอเนอร์ยี่ (PTTGE ) บริษัท ดีลอยท์ และ สำนักข่าวอิศรา หยุดการกระทำเผยแพร่เนื้อหารายงานข่าวดังกล่าว และให้สำนักข่าวอิศราลบข้อมูลบนเว็บไซท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด
นายนิพิฐ อ้างต่อศาลว่า สำนักข่าวอิศรา ได้ทำการเผยแพร่ข่าวหนังสือบริษัทที่ปรึกษา HSP Partners อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2560 ซึ่งทำให้สาธารณชนเข้าใจว่าจำเลยกระทำการทุจริตโครงการปาล์ม โดยสำนักข่าวอิศราอ้างถึงรายงานดีลอยท์ในการรายงานข่าว ซึ่งผู้ที่ทราบเนื้อหาในรายงานดังกล่าว มีเพียง ปตท. พีทีที กรีนเอเนอร์ยี่ และดีลอยท์ เท่านั้น จึงเห็นได้ว่า ปตท. และ พีทีที กรีนเอเนอร์ยี่ ใช้สำนักข่าวอิศราเป็นตัวแทนของตนในการสื่อความเพื่อให้คนทั่วไปเชื่อว่าจำเลยกระทำการทุจริต อันเป็นการขัดต่อคำสั่งศาลแพ่ง ที่ห้ามคู่กรณีเผยแพร่ข่าว
อย่างไรก็ตาม ศาลขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวออกไป โดยเห็นว่าควรให้ ปตท. กับพีทีที กรีนเอเนอร์ยี่ ทำคำแถลงต่อศาลก่อนว่า ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร เพราะศาลเห็นว่าสำนักข่าวอิศราเป็นสำนักข่าวที่มีเครือข่ายกว้าง และในข่าวของสำนักข่าวอิศราเองก็อ้างว่า ได้ข่าวนี้จาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ไม่ใช่จาก ปตท.และพีทีที กรีนเอเนอร์ยี่ จึงให้รอคำแถลงของ ปตท. พีทีที กรีนเอเนอร์ยี่ ก่อน และถ้าจำเลยยังติดใจ ศาลอาจจะออกหมายเรียกสำนักข่าวอิศรามาสอบถามเพื่อประกอบการไต่สวนคำร้องต่อไป