ศึกษาทางเลือกจี้รัฐเร่งปฏิรูปการศึกษาเตรียมล่า1หมื่นชื่อดันพรบ.เข้าสภาฯ
สภาการศึกษาทางเลือกเตรียมระดม 1 หมื่นรายชื่อดันร่างพรบ.การศึกษาทางเลือกเข้าสภาฯ จี้แนวทางปฏิบัติศูนย์เรียนรู้ชุมชนเป็นจริง พร้อมวิพากษ์นโยบายตัวชี้วัดศธ.เหมือนผียามหลอกหลอนเด็ก-ผู้ปกครอง
สืบเนื่องจากเวทีสมัชชาการศึกษาทางเลือกครั้งที่ 2 ที่สภาการศึกษาทางเลือกจัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร กรุงเทพฯ โดยมีองค์กรภาคีเครือข่าย คณะครู นักวิชาการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อบทบาทและนโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งการเสนอประเด็นต่อสาธารณะและข้อเสนอต่อรัฐบาลให้มีการพัฒนาวงการศึกษาไทย ตอบสนองความต้องการและสอดคล้องกับวิถีชีวิตทั้งผู้เรียนผู้ปกครองและชุมชน
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 15 มี.ค.55 นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก เปิดเผยว่า สภาการศึกษาทางเลือกได้ศึกษาปัจจัยสำคัญที่มีต่อการพัฒนาการศึกษามีอุปสรรคสำคัญหลายประการ อาทิ หลักสูตรแกนกลาง พ.ศ.2551ที่ขึ้นต่อกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีลักษณะขัดแย้งในตัวเองและให้อำนาจเบ็ดเสร็จกับตัวชี้วัดที่ไม่ได้สะท้อนคุณสมบัติประชากร ตามเจตจนารมณ์ของพรบ.การศึกษาพ.ศ.2542 รวมทั้งกฎระเบียบ กฎกระกระทรวง และกฎหมายอีกหลายข้อที่ต้องมีการปรับปรุง เพราะไม่ตอบสนองต่อรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับวิธีการทำงานของรัฐบาลที่มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีแบบผีตองเหลือง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลหรือพรรคการเมืองใดให้ความสำคัญกับการพัฒนากระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เป็นองค์กรปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง รัฐมนตรีที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นไปตามเกมส์และผลประโยชน์ทางการเมือง รวมทั้งนโยบายของกระทรวงก็เป็นนโยบายเฉพาะกิจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำให้ความน่าเชื่อถือของกระทรวงศึกษาธิการลดลงทุกวัน ขณะที่วิธีการทำงานแบบกำกวมเมื่อเกิดปัญหาก็หาคนรับผิดชอบไม่ได้ เช่นเดียวกับทัศนคติเชิงลบของเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับการศึกษาทางเลือกก็เป็นปัญหามาต่อเนื่องยาวนาน
"ปัญหาที่ทำให้ระบบการศึกษาของไทยไม่มีความก้าวหน้าที่พบอีกประเด็นคือการนำระบบO-NETมาใช้โดยอิงอยู่กับหลักสูตรแกนกลางฯที่ไม่ตอบสนองเจตนารมณ์ของพรบ.การศึกษาทำให้เป็นอุปสรรค เช่นเดียวกับแอดมิชั่น การประกันคุณภาพแบบอุตสาหกรรมที่ขาดความยืดหยุ่น ขาดความเข้าใจในเรื่องคุณภาพกับตัวชี้วัดที่ไม่ใช่สิ่งเดียวกันทำให้การประกันคุณภาพที่ใช้แบบเดียวกันทั่วประเทศเหมือนผียามที่คอยหลอกหลอนทั้งเด็กและผู้ปกครอง"
เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก กล่าวต่อว่า จากปัญหาที่พบองค์กรเครือข่ายมีมติให้มีการติดตามการปรับใช้หลักสูตรแกนกลางฯพ.ศ.2551 โดยเร่งรัดให้สพฐ.ประกาศแจ้งให้เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศรับรู้และดำเนินตามนโยบาย ให้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง รวมทั้งจะมีการผลักดันกฎกระทรวงที่เกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้ชุมชนและองค์กรเอกชนให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรบ.การศึกษาพ.ศ.2542 และผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติการศึกษาทางเลือก โดยจะมีการระดมผู้เชี่ยวชาญร่วมยกร่างและรณรงค์ให้ภาคประชาชนลงชื่อ 10,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างฯเข้าสภาฯ ผลักดันทำให้การศึกษาทางเลือกเกิดขึ้นตามกฎหมายเป็นทางเลือกการศึกษาไทยโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง
"จังหวะการเคลื่อนไหวนับจากนี้ เรื่องเร่งด่วนจะติดตามการปรับหลักสูตรแกนกลาง ปรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ไม่จำเป็นต้องมาใช้หลักสูตรแกนกลางทั้งหมด เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีเซ็นแล้วเหลือเพียงขั้นตอนปฏิบัติ ก็จะมีการเร่งรัดในเรื่องนี้ ส่วนกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องศูนย์การเรียนรู้โดยชุมชนผ่านกฤษฎีการแล้วยังคงเหลือขั้นตอนรัฐมนตรียังไม่เซ็นซึ่งจะมีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน เพื่อให้ชุมชนและองค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้มากขึ้น ขณะที่การผลักดันพรบ.การศึกษาทางเลือกเข้าสภาฯจะเริ่มภายในปีนี้" นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ กล่าว