ปลด “แบล็คลิสต์” เสียประโยชน์ขององค์กร ทำลายหลักธรรมาภิบาล
การที่ ขสมก. ยอมรับให้บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ร่วมยื่นซองประกวดราคารถเมล์ NGV ครั้งใหม่ หลังจากเป็นผู้ชนะการประมูลคราวที่แล้วแต่ถูกบอกเลิกสัญญาและถูกประกาศเป็นผู้ทิ้งงานเมื่อ 25 เม.ย 2560 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถส่งมอบรถเมล์ตามสัญญาได้ แต่ถึงวันที่ 7 ก.ค. 2560 กลับยกเลิกคำสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงานเสีย จึงถือว่าบริษัทฯ ยังเป็นผู้มีสิทธิ์ยื่นราคาได้
เหตุการณ์นี้ทำให้สังคมเกิดข้อกังขาถึงจริยธรรมและธรรมาภิบาลในการใช้อำนาจของผู้บริหาร ขสมก. เป็นอย่างมาก
แบล็คลิสต์หรือบัญชีผู้ทิ้งงานคืออะไร:
ตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา 109 หมายถึงผู้ที่ยื่นประมูลงานหรือได้รับงานจากรัฐแล้วไม่ปฏิบัติตามสัญญา และวงเล็บ (3) ระบุว่า “เมื่อปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐกระทําการอันมีลักษณะเป็นการ...กระทําการโดยไม่สุจริต” ก็ถือว่าเป็นผู้ทิ้งงานและกลายเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐต่อไป
ดังนั้น ผู้ทิ้งงานคือผู้ที่ไม่รักษาสัญญา ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือกระทำการโดยไม่สุจริต จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ ไม่สมควรที่จะให้มาค้าขายกับรัฐอย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง
ปัจจุบัน ขสมก. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสามารถออกระเบียบจัดซื้อจัดจ้างและระเบียบการประกาศให้เป็นผู้ทิ้งงานใช้เองได้ จนกว่า พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค. ศกนี้
การปลดหรือถอนชื่อออกจากบัญชีผู้ทิ้งงาน ตามแนวปฏิบัติของหน่วยราชการทุกวันนี้ทำได้ แต่ต้องทำตามเงื่อนไขและต้องผ่านระยะเวลาอย่างน้อยสองปีขึ้นไป โดยเมื่อพ้นระยะสิบปีก็ถือว่าสิ้นสุดการเป็นผู้ทิ้งงานโดยอัตโนมัติ
เหตุผลแปลก:
ขสมก. ให้เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงานไว้ว่า ในการที่ ขสมก. ได้บอกเลิกสัญญากับกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงานโดยบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด และมีประกาศให้บริษัทลำดับ 1 - 4 เป็นผู้ทิ้งงาน แต่เนื่องจาก ขสมก.ได้มีหนังสือแจ้งให้ บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ชี้แจงข้อเท็จจริงของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาเพียงบริษัทเดียว ซึ่งตามสัญญามีผู้เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 4 บริษัท
ขสมก. เห็นว่า เป็นการดำเนินการไม่ครบขั้นตอนของการแจ้งเป็นผู้ทิ้งงาน ดังนั้นจึงขอประกาศยกเลิกให้กลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน โดยบริษัทเบสท์รินกรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ทิ้งงาน ลงวันที่ 25 เม.ย. 2560
พูดง่ายๆ คือ:
ขั้นตอนออกคำสั่งบกพร่อง แต่ ขสมก. ก็ไม่ได้บอกว่าจะออกคำสั่งใหม่หรือไม่ รวมทั้งไม่ได้ชี้ว่าบริษัทฯ มีความผิดจนต้องให้เป็นผู้ทิ้งงานหรือไม่ ทั้งๆ ที่มีการบอกเลิกสัญญาซื้อขายจากการประมูลในครั้งนั้นแล้วและยังชี้แจงเพิ่มเติมในภายหลังอีกว่า ปัจจุบันคดียังอยู่ในการฟ้องร้องยังไม่มีผลพิพากษา
ผู้บริหาร ขสมก. ไม่มีการกล่าวถึงผลประโยชน์และความเสียหายขององค์กร รวมถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการไม่มีรถเมล์มาให้บริการตามกำหนด และไม่ได้บอกด้วยว่า เมื่อขั้นตอนการขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงานบกพร่องแล้วจะแก้ไขอย่างไรต่อไป และนี่จะเป็นเงื่อนไขให้เอกชนรายนี้ชนะคดีที่ ขสมก. ยกเลิกสัญญาสั่งซื้อไปหรือไม่
สถานะของโครงการในปัจจุบัน:
ปัจจุบัน ขสมก.เปิดขายซองประกวดราคาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์สิ้นสุดเมื่อ 11 ส.ค. 2560 จากนั้นในวันที่ 24 ส.ค. จะเป็นวันกำหนดการยื่นซองประกวดราคา ทั้งนี้ มีภาคเอกชนซื้อซองประกวดราคา 3 ราย คือ บริษัท ไทยเทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และกิจการร่วมค้า JVCC โดยบริษัท ช.ทวี
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://thaipublica.org/2017/04/ngv-buses-15/
https://www.isranews.org/thaireform/thaireform-news/57818-bmta08-57818.html
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากไทยรัฐ