เจียเม้ง ร่อนอีเมล์แจงปมรับจำนำข้าวเกิน 30 เท่า ยันไม่เคยฉ้อโกง อคส. !!
เจียเม้ง ส่งอีเมล์แจงทุกประเด็นปัญหาจำนำข้าว เผยจำนวนข้าวมากเกิน ไม่เพิ่มปริมาณ เกษตรกรอาจเดือนร้อน ยันไม่ฉ้อโกงข้าว อคส. อัยการ มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ตั้งแต่ปี 50 โวยสื่อไม่ให้ความเป็นธรรม หวั่นส่งออกข้าวไทยรับผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 บริษัทเจียเม้ง จำกัด ได้ส่งอีเมล์ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้รับอนุมัติให้รับจำนำเกินกำลังการผลิต 30 เท่า ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2554/2555 โดยระบุว่า มีสาเหตุมาจากการที่เกษตรกรนำข้าวมารับจำนำ เกินเงื่อนไขที่กำหนด เบื้องต้นบริษัท เจียเม้ง จำกัด ได้แจ้งให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทราบว่า บริษัทฯ จำเป็นต้องหยุดการรับจำนำ ในที่สุดจึงได้มีการตกลงกันให้บริษัทฯ ขออนุมัติรับจำนำเพิ่ม มิฉะนั้นเกษตรกรจะไม่มีที่รับจำนำ โดยทางการได้อนุมัติให้รับจำนำได้ไม่เกิน 50 เท่าของกำลังการผลิต
บริษัทเจียเม้ง ยังได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีถูก อคส.แจ้งข้อหาฉ้อโกงข้าว ในโครงการรับจำนำข้าว ในฤดูการผลิตปี 2547/2548 ว่า “บริษัท เจียเม้ง จำกัด และบริษัทอื่นๆ อีก กว่า 52 บริษัท เคยถูกตรวจสอบแบบเหวี่ยงแห และกล่าวหาว่าฉ้อโกงข้าว ซึ่งบริษัทได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เพราะกระทำการตามสัญญาอย่างครบถ้วน ถูกต้อง ผลการสอบสวน ไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริง ข้าวทั้งหมดยังคงอยู่อย่างครบถ้วนถูกต้อง ในที่สุดอัยการได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2550 เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ และในที่สุดได้มีการประมูลขายไปตามชนิดของข้าวโดยไม่มีการโต้แย้งเรื่องคุณภาพจากผู้ซื้อแต่อย่างใด”
“บริษัทฯ ไม่ใช่ผู้เก็บรักษาข้าว มีหน้าที่รับจำนำ โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางการเข้ามาควบคุมตลอดทุกขั้นตอน ในช่วงเวลาการรับจำนำ ได้มีคำสั่งจากทางการให้บริษัทฯ ทำการแปรสภาพ(สีข้าว)และส่งมอบไปเป็นระยะ ดังนั้นข้าวจะอยู่ในความดูแลของบริษัทฯ เพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทั้งมี เจ้าหน้าที่ของทางการเข้ามาดูแลอยู่ที่โรงสีตลอดทั้งมีคณะกรรมการทวนสอบระบบการทำงานแทบทุกสัปดาห์ โดยบริษัทฯ จะได้เพียงค่าจ้างสีข้าว(แปรสภาพ)กับค่าดำเนินการเท่านั้น ทั้งการส่งมอบก็แล้วแต่ทางการจะกำหนดว่าให้ส่งมอบที่ใดและเมื่อใด (คลังของทางการ) บริษัทฯไม่ได้เป็นผู้เก็บรักษา” บริษัทเจียเม้งระบุ
บริษัท เจียเม้ง ยังระบุด้วยว่า การสั่งแปรสภาพเร็วครั้งละ 100% ของใบประทวนที่ออกทุกชนิดข้าว การรับจำนำมีทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวขาว และข้าวเหนียว การสีข้าวแต่ละชนิด จะต้องทำต่อเนื่องจนเสร็จไม่อาจทำปะปนกันได้ ดังนั้นบางครั้งอาจทำให้ระยะเวลาการส่งมอบจะไม่ทันกำหนด จึงต้องขอขยายเวลาบ้าง มิใช่ขยายไปแบบไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสายการผลิตและบรรจุของโรงงาน
“การประมูลข้าวมีระเบียบชัดเจน การจำหน่ายข้าวของทางการที่รับจำนำไว้นี้มีการเก็บรักษาไว้ในคลังของทางการ มีกระบวนการที่ต้องประกาศให้มีการประมูลแบบเปิดเผย ตามขั้นตอนของระบบราชการ ซึ่งผู้เข้าประมูลทุกรายมีสิทธิเข้าตรวจสอบคุณภาพข้าวในคลังที่มีผู้เข้าส่งมอบหลากหลายก่อนทำการประมูล ผู้รับจำนำจึงไม่ได้เปรียบผู้ค้าข้าวรายอื่นที่มิได้เป็นผู้รับจำนำแต่อย่างใด ส่วนข้าวในท้องตลาดถูกกว่า การซื้อข้าวจากท้องตลาดจะได้ราคาถูกกว่าการซื้อข้าวของทางการ เพราะทางการมีการรับจำนำไว้ในราคาสูงกว่าราคาตลาดโลก” บริษัทเจียเม้งระบุ
บริษัทเจียเม้ง ยังระบุด้วยว่า ตามที่สำนักข่าวอิศรา และผู้จัดการออนไลน์ ได้พาดหัวข่าว และลงข่าวเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2555 23:36 น “พุงกาง! บ.ฉ้อโกงข้าว 4.6 พันล้าน ได้สิทธิ์รับจำนำข้าวเปลือกเกินโควตา” โดยได้กล่าวอ้างทำให้ผู้อ่านโดยทั่วไปเข้าใจว่า บริษัท เจียเม้ง จำกัด เป็นบริษัทที่ ทำการฉ้อโกง โครงการข้าวของรัฐบาล เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย โดยสำนักข่าวและผู้จัดการออนไลน์ มิได้เคยสอบถามข้อเท็จจริงจากบริษัท แต่ลงข่าวด้านเดียวเจาะจงกล่าวหาบริษัทอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงการส่งออกข้าวของไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า การนำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับบริษัท เจียเม้ง จำกัด ของสำนักข่าวอิศรา ใช้ชื่อเรื่อง “จำนำข้าว 6.7ล.ตัน ปัญหาเพียบ พิลึก ไฟเขียว “เจียเม้ง” คู่ความคดีฉ้อโกงข้าว อคส. ได้โควตาเกิน” ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2012 เวลา 20:00 น เป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2554/2555 เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ และปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ ตามหน้าที่สื่อมวลชน
ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวกับการแจ้งความดำเนินคดีบริษัทเจียเม้ง จำกัด ของอคส. นั้น ในเนื้อข่าวดังกล่าว มีการระบุข้อความชัดเจนว่า “บริษัทเจียเม้ง ได้เข้าสู้คดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยผู้บริหารบริษัทฯ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาฉ้อโกงตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด”