11 บลจ. ตั้ง “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” แบ่ง 40% หนุนต้านคอร์รัปชั่น
11 บลจ. รวมตัวจัดตั้ง “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” นำรายได้ 40% บริจาคหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชัน ส่งเสริมธรรมาภิบาล พิจารณารายโครงการ เน้นหลักยั่งยืน เริ่มเปิดขายไตรมาส 3-4 ด้านผู้บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ เชื่อมั่น ศก. หนุนลงทุน รองรับสังคมผู้สูงอายุ สร้างผลิตผลจากนวัตกรรม
วันที่ 2 ส.ค. 2560 สมาคมบริษัทจัดการลงทุน จัดแถลงข่าว Thai CG Funds Kick off Conference “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย สร้างสรรค์สังคมไทย ใส่ใจผู้ลงทุน” ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เปิดจำหน่ายกองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย ทั้งหมด 11 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมจำกัด (บลจ.) ที่มีขนาดกองทุนรวมภายใต้การบริหารกว่า 90% ของทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวม
โดยจะมีการทยอยจัดตั้งและเปิดจำหน่ายกองทุนรวมธรรมาภิบาลไทยในช่วงไตรมาส 3 จำนวน 8 บลจ. ได้แก่ บลจ.กรุงไทย, บลจ.กรุงศรี, บลจ.ทหารไทย, บลจ.ทาลิส, บลจ.ทิสโก้, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.บัวหลวง และ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย)
และไตรมาส 4 จำนวน 3 บลจ. ได้แก่ บลจ.กสิกรไทย, บลจ.เอ็มเอฟซี และบลจ.บางกอกแคปปิตอล
โดยกองทุนรวมธรรมาภิบาลไทยมีนโยบายลงทุนในตราสารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เเละตลาดรองอื่น ๆ ของตลท. มุ่งเน้นบริษัทที่มีการกำกับดูเเลกิจการที่ดี โดยพิจารณาจากการจัดอันดับ CG Scoring ที่ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกเเนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (CAC) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors:IOD)
ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวต่อว่า บลจ.ต่าง ๆ จะนำรายได้ 40% ของค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนที่ได้รับไปบริจาคให้กับหน่วยงานที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลไทย และหน่วยงานที่ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชัน โดยพิจารณาถึงความยั่งยืนของโครงการต่าง ๆ เป็นสำคัญ
โดยทุก บลจ.จะส่งผู้แทนแห่งละ 1 รายเป็นคณะกรรมการพิจารณาการบริจาคเงิน เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาคัดเลือกโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุน พิจารณาคัดเลือก และอนุมัติการสนับสนุนโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุน รวมถึงติดตามและประเมินผลการนำเงินบริจาคไปใช้ในโครงการที่สนับสนุน
ทั้งนี้ จะเชิญผู้มีประสบการณ์สูงในการทำงานด้านส่งเสริมธรรมาภิบาลไทยและต่อต้านคอร์รัปชันมาเป็นที่ปรึกษาให้แก่คณะกรรมการ ซึ่งท้ายที่สุด เชื่อมั่นว่า การได้รับการสนับสนุนที่ดีจากนักลงทุน จะเป็นแรงจูงใจให้บริษัทที่จดทะเบียนใน ตลท. มีการบริหารจัดการ และดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และรับผิดชอบต่อผู้ลงทุนและสังคม
ขณะที่ นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวให้เชื่อมั่นในบริษัทใน ตลท. ซึ่งมีอัตราการเติบโตของกำไร 2 เท่าของจีดีพี ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา นั่นแสดงว่า ตลท.ทำหน้าที่คัดกรองบริษัทที่ดีมาให้นักลงทุน โดยปีนี้บลจ. รวมตัวกันซื้อสุทธิ 4.7 หมื่นล้านบาท ชี้ให้เห็นว่า ทุกบริษัทเชื่อมั่นในตลาดและเศรษฐกิจไทย หากไม่เชื่อมั่นคงไม่ซื้อ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวถึงการที่ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเรื่องน่ากลัว พร้อมกับยกตัวอย่างญี่ปุ่น พบว่า ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไม่เคลื่อนไหว แต่ประเทศอื่นกลับมีตลาดและเศรษฐกิจที่เติบโต ซึ่งความแตกต่างอยู่ที่นวัตกรรม (Innovation) ดังนั้นตลาดและเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเติบโตขึ้น การเพิ่มผลผลิต (productivity) จากนวัตกรรมต้องรวดเร็วกว่าเดิม
เช่นเดียวกับไทย รัฐบาลกำลังผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ส่งเสริมให้คนไทยเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต สร้างรายได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เราประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับกองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย .