ผู้ว่าฯนนท์ตั้ง กก.สอบซ้ำ นายก ต.ปลายบาง ถูก ป.ป.ช.ฟัน เกือบปียังไม่สรุป
ร้องปมตั้ง กก.สอบ นายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง จ.นนทบุรี เอื้อประโยชน์เอกชนก่อสร้างผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทำรัฐเสียหาย ไม่คืบหน้า หลังถูก ป.ป.ช.ชงสอบ แต่ยังอยู่ในตำแหน่ง ด้าน รองผู้ว่าฯ แจงเตรียมเรียกประชุม คกก.สรุปผล 11 ส.ค.นี้ เจ้าตัวยันทำตามหน้าที่ ไม่ผิดระเบียบ พร้อมรับผล
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ร้องเรียนสำนักข่าวอิศราwww.isranews.org ว่า ภายหลังจากที่นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายพงษ์ศักดิ์ อัจฉริยะประสิทธิ์ นายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2559 กรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเนื่องจากการออกใบอนุญาตก่อสร้าง ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ คำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 2211/2559 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2559 ระบุสาระสำคัญว่า จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้พิจารณาเรื่องกล่าวหาร้องเรียน นายพงษ์ศักดิ์ อัจฉริยะประสิทธิ์ นายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโดยมิชอบตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และละเว้นไม่ได้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่มีการก่อสร้างอาคารไม่ถูกต้องตามใบอนุญาตและไม่เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เจ้าของอาคาร เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
และมีมติแล้วว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหามีมูลเป็นการปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อควาามสงบเรียบร้อยของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที 13) พ.ศ.2552 และมีมูลความผิดอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กับผู้ถูกกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยดารป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสาม สำหรับความผิดทางอาญา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแก่บุคคลดังกล่าวแล้ว
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน จำนวน 6 ราย ให้ทำการตรวจสอบ สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานกรณีดังกล่าว แล้วสรุปข้อเท็จจริงพร้อมทำคว่มเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามเรื่องที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ก่อนพิจารณา วินิจฉัย และเสนอต่อผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ พร้อมทั้งสำนวนการสอบสวน ภายใน 60 วันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง (ดูเอกสาร)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2560 นายชลธี ยังตรง รองผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวกำลังจะเรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อสรุปผลการสอบสวน สัปดาห์นี้คาดว่าน่าจะรู้ผลแล้ว ที่ล่าช้า ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ถือว่าช้า เพราะมีกระบวนการตรวจสอบ ทั้งการเรียกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ถ้อยคำ ตลอดจนเอกสารที่มีจำนวนเยอะมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถบอกได้หรือไม่ว่าผลสรุปการสอบสวนจะออกมาในแนวทางใด นายชลธีกล่าวว่า ต้องรอดูผลตอนสรุปออกมาก่อน ตอนนี้ยังไม่ขอพูดอะไรมาก เนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นการชี้นำ
ผู้สื่อข่าวระบุผู้ร้องอ้างว่า ผู้ว่าราชการฯ และรองผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี มีความสนิทสนมกับนายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง เป็นพิเศษ จึงพยายามช่วยเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป นายชลธีชี้แจงว่า "ผมรู้แต่ว่าเขาเป็นนายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว"
จึงถามว่า ผู้ร้องเรียนอ้างด้วยว่า การตั้งสอบสวนกรณีดังกล่าวนี้ เลขานุการคณะกรรมการสอบสวนฯ มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากการช่วยเหลือในการสอบสวน รองผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี ยืนยันว่า "ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้าง แต่ถ้ามีมูลก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป ซึ่งนักข่าวสามารถติดต่อสอบถามกับเขาได้ตามเบอร์ที่ระบุในเว็บไซต์ คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องลับอะไร"
ขณะที่ ว่าที่ รต.ชำนัญ รัตนสีมา หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมายฯ และเลขานุการของคณะกรรมการสอบสวน กล่าวว่า ในวันที่ 11 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ได้เชิญให้คณะกรรมการสอบสวนเข้าประชุมร่วมกัน เพื่อสรุปผลการสอบสวนกรณีดังกล่าว ส่วนผลการสอบจะเป็นอย่างไร นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากคณะกรรมการจะต้องสรุปผลการสอบสวนร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถขอรายงานการประชุมมานำเสนอต่อสาธารณะได้หรือไม่ ว่าที่ รต.ชำนัญ กล่าวว่า ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติตรงส่วนนี้ พร้อมแนะให้ทำหนังสือเข้ามาสอบถามกับทางผู้ว่าราชการฯ หรือรองผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี
"ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าผมเรียกรับเงิน ผมเรียนตามตรงนะ ผมทำงานมาหลายสิบปี เงินเดือนที่ได้ผมก็พอใช้ และผมไม่จำเป็นต้องเรียกรับเงินจากใคร ปีนี้ผมก็อายุ 60 ปีแล้ว ทำงานอีกปีเดียวก็เกษียณราชการแล้ว ผมมาประจำอยู่ที่ จ.นนทบุรี ตั้งแต่ปี 2548 เป็นหัวหน้ากลุ่มงานกฎหมาย และหน้าที่ผมคือตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายกฯ ทั้ง อบต. และเทศบาล 46 แห่งในจังหวัด ซึ่งมันก็ให้คุณมากกว่าโทษ" ว่าที่ รต.ชำนัญ ยืนยัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2560 นายพงษ์ศักดิ์ อัจฉริยะประสิทธิ์ นายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง ชี้แจงว่า ทราบเรื่องที่ ป.ป.ช. ชี้มูลและส่งให้ผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี ตั้งสอบตนแล้ว เกี่ยวกับการออกใบอนุญาตสร้างตึกเมื่อปี 2551 ซึ่งได้เข้าไปชี้แจงต่อคณะกรรมสอบสวนแล้วครั้งหนึ่ง และคิดว่าจะเข้่าไปชี้แจงอีกรอบหนึ่ง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดระเบียบ ทำตามหนังสั่งการ ตามอำนาจหน้าที่
"เรื่องนี้มีคนไปร้องเรียน ซึ่งเขาตัดตอนผม ผมทำตามหนังสือสั่งการของปลัดอำเภอฯ ซึ่งพื้นที่ก่อสร้างตึกนั้นก็มีขนาดไม่ถึง 2,000 ตารางเมตร และไม่ได้อยู่ในบ้านจัดสรรด้วย ผมเป็นมาตั้งแต่ปี 2538 ผมจะบอกว่ามันเป็นเรื่องกลั่นแกล้งกัน คนก็จะมองว่าผมแก้ตัว ซึ่งจะไม่บอกอย่างนั้น และหากผลการสอบสวนของจังหวัดฯ จะออกมาเป็นอย่างไร ผมก็ยินดี และพร้อมที่จะสู้ เพราะผมไม่ได้ทำผิดอะไร" นายกเทศมนตรี ต.ปลายบาง ยืนยัน
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ปัจจุบันเว็บไซต์เทศบาล ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี (http://www.plaibang.go.th) ในส่วนของผู้บริหารหน่วยงานยังปรากฏชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ อัจฉริยะประสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีฯ