แพร่ทางการ พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หน่วยงานรัฐไม่ทำ-ครม.พลาด ชง ป.ป.ช.ฟัน
แพร่อย่างเป็นทางการ! พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตั้งคณะทำงาน ‘นายกฯ’ นั่งหัวโต๊ะ ปธ.สภาผู้แทนฯ-วุฒิสภา-รองนายกฯ เป็นรอง ปธ. ปลัด กห.-4 ผบ.เหล่าทัพ-เลขาฯ สมช. นั่ง กก. ใช้ยาแรง ถ้าหน่วยงานรัฐไม่จัดทำ-ครม.ทำพลาด ส่ง ป.ป.ช. ฟันทันที
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2560 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560 สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ มาตรา 12 ให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นรองประธานฯคนที่ 1 ประธานวุฒิสภา เป็นรองประธานฯคนที่ 2 รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานฯคนที่ 3 ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประธานกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประธานสภาหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นกรรมการ
มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิด อายุไม่เกิน 70 ปี มีความรู้ เชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ด้านการเมือง ความมั่นคง การบริหาราชการแผ่นดิน กฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอื่น ๆ จำนวนไม่เกิน 17 คน ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความหลากหลายด้วย และมีวาระคราวละ 5 ปี
ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมอบหมาย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
มาตรา 15 ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี กำกับดูแลการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
นอกจากนี้ มาตรา 5 ให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกัน อันจะก่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะต้องไม่น้อยกว่า 20 ปี และหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ
การกำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และแผนอื่นใด รวมทั้งการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และให้เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีกำกับดูแลและสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานดำเนินการ
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ชาติตามมาตรา 6 ระบุว่า อย่างน้อยต้องประกอบด้วย วิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศ เป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว และยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ โดยเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างน้อยต้องมีเป้าหมายในด้านความมั่นคง ด้านคุณภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน และด้านบทบาทของรัฐที่มีต่อประชาชน
ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการดำเนินการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติเสร็จแล้ว ให้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ หลังจากนั้นต้องส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบภายใน 60 วัน หลังจากนั้นส่งให้วุฒิสภาพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบภายใน 30 วัน หากทั้ง 2 สภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าเห็นชอบ แต่ถ้าไม่เห็นชอบทั้ง 2 สภา ให้ร่างยุทธศาสตร์ชาติตกไป และให้คณะกรรมการดำเนินการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติขึ้นใหม่ ภายใน 180 วัน และให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาใน 30 วัน และวุฒิสภาพิจารณาใน 15 วัน หลังจากร่างดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายภายใน 20 วัน เพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศใช้เป็นยุทธศาสตร์ชาติ
ทั้งนี้มาตรา 8 ระบุว่า ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจัดให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการด้วย
มาตรา 11 ให้คณะกรรมการจัดให้มีการทบทวนยุทธศาสตร์ชาติทุก 5 ปี หรือกรณีสถานการณ์ของโลกหรือสถานการณ์ของประเทศเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการตามด้านหนึ่งด้านใดได้ แต่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนดำเนินการ
มาตรา 24 เพื่อประโยชน์ในการติดตามผล ให้หน่วยงานของรัฐรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติภายในกำหนด ต่อมามาตรา 25 กรณีหน่วยงานของรัฐไม่แจ้งต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้มีมติส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการกับหัวหน้าหน่วยงานรัฐดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี กรณีมีมูลให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาพักราชการหรือพักงาน หรือสั่งให้ออกจากราชการหรืองานไว้ก่อน หรือสั่งให้พ้นตำแหน่งต่อไป
อย่างไรก็ดีตามบทเฉพาะกาล มาตรา 28 ระบุว่า วาระเริ่มแรก ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และให้ถือว่าการรับฟังความคิดเห็นที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2558 ที่ดำเนินการไปก่อนที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ ไม่เป็นการตัดอำนาจที่จะดำเนินการให้มีการรับฟังความเห็นเพิ่มเติม
ทั้งนี้ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่ที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยยึดร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย 2558 เป็นหลัก หลังจากนั้นให้รับฟังความคิดเห็นให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาใน 45 วัน และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 30 วัน ก่อนเสนอต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐสภา) ภายใน 30 วัน และให้ สนช. ให้ความเห็นชอบภายใน 30 วัน ก่อนที่จะให้นายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ
กรณี สนช. สิ้นสุดลงก่อนคณะรัฐมนตรีเสนอร่างยุทธศาสตร์ ให้คณะรัฐมนตรีเสนอร่างยุทธศาสตร์ที่เคยให้ความเห็นชอบแล้ว ต่อวุฒิสภาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
มาตรา 29 ระบุว่า กรณีที่การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือแผนแม่บท เป็นผลจากมติคณะรัฐมนตรี หรือการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีโดยตรง ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติแจ้งให้วุฒิสภาทราบ ทั้งนี้หากวุฒิสภาเห็นว่า เป็นปัญหามติคณะรัฐมนตรีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็ว หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา และมีมติให้เสร็จภายใน 60 วัน โดยให้ฟังข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามที่ปรากฏในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
(อ่านฉบับเต็ม : ที่นี่)