เบื้องหลังม.44 ล็อต9!อบจ.ปทุมฯโดนคดีเครื่องออกกำลังกาย-2ผอ.จ้างพิมพ์คู่มือหีบเลือกตั้ง
เปิดเบื้องหลังคดี จนท.รัฐ 70 ราย โดน ม.44 ล็อต 9! อบจ.ปทุมฯ ถูกตรวจสอบจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งราคาสูงเกินความจริง -2 ผอ.กกต. จ้างพิมพ์คู่มือ-หีบเลือกตั้ง -อบต.คลองหก ตรวจรับงานสร้างเขื่อนเบิกเงินให้ผู้รับเหมา- บิ๊ก รพ.ห้วยราช เจอเบิกจ่ายเงินสมัยอยู่ รพ.สตึก
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 จำนวน 70 ราย และราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่รายชื่อเป็นทางในช่วงค่ำวันที่ 25 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา นั้น (อ่านประกอบ : ‘บิ๊กตู่’งัด ม.44 ลงดาบ 70 จนท.รัฐพันทุจริตล็อต 9-ผู้บริหาร-ขรก.อปท. 61 ราย, มาแล้ว! ชื่อ 70 จนท.รัฐพันทุจริตล็อต 9 ‘บิ๊กตู่’งัด ม.44 ลงดาบ)
ล่าสุด แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในจำนวนรายชื่อเจ้าหน้าที่ 70 ราย ที่ถูกคำสั่งม.44 ล็อตที่ 9 ตามที่มีการประกาศรายชื่อเป็นทางการไปแล้วนั้น ส่วนใหญ่ ถูกตรวจสอบพบว่า มีปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
โดยในส่วน นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ปทุมธานี ถูกตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริง
ขณะที่ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 2 ราย คือ เพชรบูรณ์ และ แม่ฮองสอน ถูกตรวจสอบเรื่องการจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้ง และจัดทำหีบบัตรด้วยวิธีพิเศษ
ส่วนนายนําศักดิ์ อุทัยศรีสม นายกองค์การบริหารส่วนตําบล(อบต.)คลองหก อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ถูกตรวจสอบปัญหาการตรวจรับงานสร้างเขื่อนและอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาไปก่อน ทั้งที่ งานยังไม่เรียบร้อย
ขณะที่ นายสุนิตย์ ธรรมประพัทธ์ ผู้อํานวยการวิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว อําเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ถูกตรวจสอบเรื่องการแก้ไขรายงานการประชุมจัดซื้อครุภัณฑ์ดิจิทัล
ส่วน นายสมพงษ์ เชิดชูพงศ์ล้ำ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลห้วยราช อําเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกตรวจสอบเรื่องเบิกจ่ายเงินโครงการสมัยที่อยู่ที่รพ.สตึก
ส่วน นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผู้อํานวยการกลุ่มศูนย์เทคโนโลยีและสารสนเทศ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถูกตรวจสอบเรื่องการเรียกคืนเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด (คดีเงินทอนวัด)
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า สำหรับขั้นตอนหลังการประกาศรายชื่อ เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2560 คือ ศอตช. จะแจ้งข้อเท็จจริงให้หน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับแจ้งจาก ศอตช. หากไม่พบว่ามีการ กระทําความผิดหรือไม่ถึงขั้นต้องดําเนินการทางวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาสรุปผลการตรวจสอบและพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้วแจ้งให้ศอตช. ทราบ ซึ่งประธาน ศอตช. จะแต่งตั้งคณะบุคคลซึ่งเป็นหรือมิได้เป็นข้าราชการ ไม่มีข้อขัดแย้งหรือส่วนได้เสียกับบุคคลหรือเรื่องที่มีการกล่าวหา และไม่เคยเป็นผู้ตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน จำนวน 3-5 คน เพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบผลการตรวจสอบเดิมของผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกตรวจสอบกับรายงานหรือพยานหลักฐานที่มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง และให้มีอํานาจเชิญบุคคลมาให้ถ้อยคําได้ โดยคณะบุคคลดังกล่าวอาจตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ถูกตรวจสอบแต่ละรายหรือหลายรายพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งด้วย
(ดูรายละเอียดขั้นตอนในคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 35/2560 ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/190/144.PDF)
หมายเหตุ 1 : ภาพประกอบข่าว นายชาญ พวงเพ็ชร์ จาก ผู้จัดการ
หมายเหตุ 2 : สืบเนื่องจากการเผยแพร่ข่าวชิ้นนี้ในช่วงแรก มีความผิดพลาดในการจัดทำรูปประกอบข่าว โดยมีการนำรูป นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ มาใช้ประกอบข่าวด้วย ทั้งที่ นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ ไม่ส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อข่าว และไม่ได้ปรากฎชื่อในคำสั่ง หน.คสช. ด้วยแต่อย่างใด เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้ดำเนินการแก้ไขภาพใหม่ให้ถูกต้อง และต้องขออภัย นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ มา ณ ที่นี้ด้วย