จับตาใครพูดหมิ่นศาล!นายกฯปัดสกัดมวลชนให้กำลังใจ‘ปู’-ปรองดองต้องให้ กม.ชี้ขาด
นายกฯ เผยจับตาอยู่ใครพูดจาหมิ่นศาล ปัดสกัดมวลชนให้กำลังใจ ‘ยิ่งลักษณ์’ วันพิพากษาคดีข้าว แต่ปัดรับผิดชอบหากสร้างความเดือดร้อน ลั่นจะปรองดองได้ต้องให้กฎหมายชี้ขาด ไม่ใช่ต้านกระบวนการยุติธรรม ปัดปรับ ครม. เหตุขัดแย้งสูง
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสัญญาณการเมืองขณะนี้อาจมีสัญญาณไม่นำไปสู่ความปรองดองว่า ไม่น่าจะเป็นความคิดใคร เป็นความคิดของประชาชนมากกว่า ส่วนคดีที่เห็นว่าส่งผลต่อกลุ่มการเมืองอยากให้ท่าทีตนชัดเจนนั้น ตนอยากให้บ้านเมืองสงบ มีความปรองดอง จะเกิดขึ้นได้ต้องให้กฎหมายดำเนินการเป็นหลัก ชี้ว่าอะไรผิดหรือถูก ไม่ใช่มาต่อต้านกระบวนการยุติธรรม และไม่ใช่ว่าคดีความทุกคดีตัดสินโดย คสช. แต่ถูกคดีตัดสินโดยศาล เป็นกระบวนการยุติธรรมตามปกติ คสช. ตัดสินได้เมื่อไหร่
@จับตาใครพูดหมิ่นศาล-ชี้ต้องมีอะไรสักอย่างนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่ได้
ส่วนประเมินผลกระทบมวลชนที่เข้ามาให้กำลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค. 2560 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงที่มีการพิพากษาอยากให้สังคมเข้าใจว่า กระบวนการยุติธรรมหากผิดก็ลงโทษ แต่ถ้าไม่ผิดไม่ลงโทษ จะมาต่อต้านนอกศาลไม่ได้ ดูด้วยว่าดูหมิ่นศาลหรือไม่ เขาดูกันอยู่ ไปพูดจาให้ร้ายหมิ่นศาลไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นห่วงประชาชนที่ไปร่วมในวันพิจารณาคดี ต้องระวังด้วย ถ้าไปร่วมแล้วเดือดร้อนขึ้นมา ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะผิดกฎหมาย
“รัฐบาลจะสกัดคนหรือไม่ คงไม่สกัด ทุกคนต้องสกัดใจตัวเองว่า จะไปทำไม ได้ประโยชน์อะไรตรงไหน ไม่ว่าไปมากหรือไปน้อย หากเกิดเหตุการณ์อะไร ไม่มีผลต่อการตัดสินคดี จะไปทำไม ถ้าผิดไม่ผิดจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร ต้องมีอะไรสักอย่างนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นจะเข้าไปได้อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@ปัดปรับ ครม. เหตุขัดแย้งสูง
ส่วนกรณีการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรียนว่าไม่ว่าปรับใครเป็นรัฐมนตรี ตอนนี้ทำไม่ได้ มีความขัดแย้งสูง แต่รัฐบาลทำงานมา 3 ปี ทำโดยคณะทำงานที่กำหนดให้รัฐมนตรีเอากรอบทำงานไปทำ ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐมนตรี แต่ไปทำนอกเหนืองานของรัฐบาล ทำไม่ได้ ไม่ใช่ต่างคนทำอิสระตามใจตัวเอง ไม่คำนึงถึงกฎหมาย ไม่คำนึงถึงความชอบธรรม ไม่คำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณ จะยิ่งพันกันไปใหญ่
“วันนี้ประเมินด้วยตัวเอง ถ้าดูแล้วว่า ที่สั่งไปแล้วไม่ทำ หรือกำหนดนโยบายแล้วไม่ทำ หรือทำแบบไม่มีประสิทธิภาพ ค่อยปรับ ยืนยันว่า ยังทำงานอยู่ได้เวลาที่เหลืออีก 1 ปี ทำอย่างไร ดูว่าเปลี่ยนแล้วทำไม่ดีเป็นอย่างไร วันนี้เข้าทำอะไรมาแล้วบ้าง ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจเขาเอง มันมีทั้งคนชอบไม่ชอบ อย่าเป็นกระบอกเสียงให้คนไม่ดี ไม่ชอบ ไม่ใช่เรื่อง ฝากไปดูด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@ฉะงี่เง่าปมเงินทอนดอกไม้จันทน์แค่ 3-5 พันยังเอา ถ้ามากกว่านี้ยิ่งเอาใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีมีนักการเมืองออกมาระบุว่ามีความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณจัดทำดอกไม้จันทน์งานพระราชพิธีพระบรมศพฯว่า การอ้างว่ามีการทุจริต มีเงินทอน ตรงนี้มันมีงบหลายส่วน ของกระทวงมหาดไทยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งตั้งงบของเขาเอง กระทรวงศึกษาธิการ ใช้งบศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ส่วนกระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนเป็นเป็นงบของผู้พิการ งบประมาณแยกกัน อยู่ระหว่างตรวจสอบ
“ที่บอกว่ามีการโอนคืนจังหวัด 5,000 บาท ทำไมงี่เง่า แค่ 3,000-5,000 บาท ก็เอาเหรอ ถ้างั้นมากกว่านี้ก็ยิ่งเอาใหญ่ ต้องลงโทษ ถ้ามันจริง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว