จำคุก 'จตุพร' 1 ปี ไม่รอลงอาญา!ศาลฎีกากลับคำพิพากษา คดีหมิ่น 'อภิสิทธิ์'
ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาด คดี 'จตุพร พรหมพันธุ์' หมิ่น อภิสิทธิ์ จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมโฆษณาคำพิพากษาในนสพ. 7 วัน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 20 ก.ค.2560 เฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ ได้เผยแพร่ข้อความโดยทีมงานระบุว่า ด่วน! ศาลฏีกาอ่านคำพิพากษาจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา "จตุพร พรหมพันธุ์"
เช้านี้ที่ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาฏีกาคดีหมายเลขดำ อ.1962/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา (หมิ่นประมาณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งฆ่าประชาชนปี2552) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332 ซึ่งก่อนหน้าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้อง
โดยคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดให้จำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ระบุว่า วันที่ 10 พฤษภาคม 2552 นายจตุพร จำเลยได้ปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อหน้าประชาชน จำนวนกว่าหมื่นคน ใส่ความทำนองว่ารัฐบาลนายอภิสิทธ์ เป็นรัฐบาลภายใต้ทรราชฟันน้ำนม รวมทั้งกล่าวหาว่า โจทก์เป็นคนสั่งทหารให้ไปยิงประชาชน เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน ใส่ร้ายประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง โจทก์จะต้องถูกประหารชีวิต ข้อหาฆ่าคนตาย และข้อความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จากประชาชนที่ได้ยินได้ฟังการปราศรัยของจำเลย เหตุเกิดที่วัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งนายจตุพร จำเลยให้การปฏิเสธ
โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.55 ให้ยกฟ้องจำเลย เนื่องจากเห็นว่าทางนำสืบรับได้ว่าเป็นกรณีที่ได้มีการปราศรัย แถลงข่าว วิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นการตอบโต้ทางการเมืองทางวิธีทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย จึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท
ต่อมานายอภิสิทธิ์ โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริง ที่เป็นมูลเหตุที่นำมาสู่การกล่าวหมิ่นประมาท ที่ไม่ใช่เพียงการโต้ตอบทางการเมืองแต่มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้องเช่นกัน เนื่องจากรูปคดีมีเหตุผลที่ทำให้นายจตุพร จำเลย เชื่อว่าน่าจะมีมูลเหตุในเรื่องที่ได้กล่าวถึงจริง ซึ่งการกล่าวของจำเลยเป็นการปกป้องตนหรือป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนตามทำนองคลองธรรม ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (1) การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
โดยนายอภิสิทธิ์ โจทก์ก็ได้ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นฎีกาคดีอีกและศาลก็ได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาในวันนี้ ปรากฎว่า ศาลฎีกา พิพากษากลับให้จำคุกนายจตุพร พรหมพันธุ์ 1 ปี ไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 7 วัน