พิจารณาแนวทางเช่าบ้าง!สตง.กระตุกบินไทยจัดทำแผนปลดระวางเครื่องบินเก่า35ลำ
สตง.ร่อนหนังสือถึง 'ปธ.บินไทย' ทักท้วงแผนปลดระวางเครื่องบินเก่า ช่วงปี 60 -64 จำนวน 35 ลำ ก่อนจัดซื้อของใหม่ทดแทน เพื่อป้องกันยับยั้งความเสียหายอนาคต ชี้ควรให้ความสำคัญเลือกประเภทเครื่อง สมรรถนะ อัตราการใช้เชื้อเพลิงที่เหมาะสม พิสัยการบินสอดคล้องเวลาการเดินทางแต่ละเส้นทางตามแผนยุทธศาสตร์ ระบุชัดควรพิจารณาทางเลือก เช่า/เช่าซื้อ แทนจัดซื้ออย่างเดียว
แผนการปลดระวางเครื่องบิน ระหว่าง ปี 2560 -2564 จำนวน 35 ลำ และจัดหาเครื่องบินใหม่ทดแทน ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กำลังถูกจับตามอง เมื่อถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือทักท้วงเป็นทางการ เกี่ยวกับแผนการขายเครื่องบินที่คาดว่าจะปลดระวางเป็นการล่วงหน้าดังกล่าว
แหล่งข่าวจากการบินไทยฯ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranes.org ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา สตง. ได้ทำหนังสือถึง ประธานกรรมการบริษัท การบินไทยฯ เพื่อขอให้พิจารณาวางแผนการขายเครื่องบินที่คาดว่าจะปลดระวางเป็นการล่วงหน้าก่อนครบกำหนดเวลา ตลอดจนเร่งรัดดำเนินการตามแผนการขาย เพื่อลดภาระของบริษัทจากการด้อยค่าของเครื่องบินและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเครื่องบินภายหลังจากการปลดระวาง รวมถึงพิจารณาวางแผนการขาย เครื่องบินให้เป็นประโยชน์กับบริษัทสูงสุด
นอกจากนี้ สตง.ยังขอให้พิจารณาความเหมาะสมประเภทเครื่องบินที่จัดหาเข้ามาทดแทนในฝูงบิน โดยให้ความสำคัญในการเลือกประเภทเครื่องบิน และประเภทเครื่องยนต์ทดแทน ที่มีสมรรถนะและอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่เหมาะสม รวมทั้งมีพิสัยการบินที่สอดคล้องกับเวลาการเดินทางในแต่ละเส้นทางบินตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท ทั้งนี้ ให้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นส่วนประกอบในการพิจารณาด้วย
แหล่งข่าวยังระบุว่า สตง. ยังขอให้ผู้บริหารการบินไทย พิจารณาทางเลือกอื่นการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมจากการจัดซื้อเช่น การเช่า การเช่าซื้อ (ระยะสั้น/ยาว) เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจแต่ละช่วง โดยให้พิจารณาปัจจัยต้นทุนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ให้ครอบคลุมถึงฐานะทางการเงินของบริษัท ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และการรับซื้อเครื่องบินคืนเมื่อครบกำหนดการปลดระวาง โดยให้วิเคราะห์ศึกษาเปรียบเทียบในทุกมิติ และวิธีการที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"การบินไทย ควรพิจารณาวางแผนการขายเครื่องบิน และการจัดหาเครื่องบินทดแทน ที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินการป้องกันและยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและขจัดการสูญเสียโอกาสที่ควรได้รับ โดยมีหน่วยงานดูแลรับผิดชอบแต่ละเรื่องในทุกมติ" แหล่งข่าวระบุ