นักวิชาการ หวั่น “กองทุนสตรีเหลวซ้ำรอยกองทุนหมู่บ้าน” แนะนำร่องก่อนใช้จริง
นักวิชาการชี้ “กองทุนสตรี” ต้องไม่ได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่ม-ไม่มีสี หวั่นล้มเหลวซ้ำรอยกองทุนหมู่บ้าน ทำผู้หญิงแบกหนี้ แนะใช้วิธีสรรหาแทนแต่งตั้ง คกก.ระดับชาติ-ท้องถิ่น นำร่อง 6 เดือนก่อนใช้จริง
วันที่ 8 มี.ค.55 นางกรวิภา วิลลาส นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและผู้พิการ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวในการเสวนา “พลังสตรี พลังพัฒนาประเทศ เนื่องในวันสตรีสากล” ว่าหลักการในการตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นสิ่งที่ดี แต่เป็นห่วงในทางปฏิบัติว่าเมื่อดำเนินการแล้วจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกองทุนหรือไม่ จึงขอเสนอให้ใช้เวลา 6 เดือน ศึกษาความต้องการของสตรีในด้านเงินทุนและด้านอื่นๆให้มีความชัดเจนก่อนนำนโยบายไปปฏิบัติ
หลังจากนั้น ควรนำร่องดำเนินการภาคละ 2 จังหวัด ใช้ระยะเวลา 1 ปี แล้วจึงถอดบทเรียนที่ได้มาก่อนนำไปดำเนินการทั่วประเทศ ขณะเดียวกันควรให้หน่วยงานหรือสถาบันการศึกษาในแต่ละพื้นที่ประเมินผลทุกๆ 6 เดือนอีกด้วย
“จากบทเรียนกองทุนหมู่บ้าน พบว่าคนด้อยโอกาสยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน เน้นปล่อยกู้เป็นกลุ่มก้อนมากกว่าตัวบุคคล ระยะเวลาคืนเงินสั้น สุดท้ายแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่กลายเป็นคนแบกหนี้ กองทุนสตรีอย่าเดินซ้ำรอยกองทุนหมู่บ้าน ไม่ต้องรีบร้อนดำเนินการ ไปทำการบ้านให้มากกว่านี้ก่อน เช่น อาชีพอะไรที่จะยกระดับรายได้ของสตรีให้มีรายได้ที่แท้จริง เราคงไม่อยากเห็นผู้หญิงนั่งทอผ้าหลังขดหลังแข็งขายผืนละร้อยบาทหรือทอดกล้วยแขกขายแล้วบอกว่านี่คือการยกระดับรายได้ รวมทั้งต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าเงิน 7,700 ล้านบาทจะช่วยลดความรุนแรงทางเพศได้อย่างไร จะเปลี่ยนเจตคติของสังคมไปสู่ความเสมอภาคได้อย่างไร” นางกรวิภา กล่าว
นางกรวิภายังเสนอให้เปิดรับสมัครสมาชิกกองทุนไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องรีบร้อนปิดรับสมัคร เพราะกองทุนมาจากเงินภาษีจึงควรเป็นสิทธิของผู้หญิงทุกคนไม่ใช่เฉพาะสมาชิก แต่เมื่อออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ก็แก้ไขด้วยการเปิดรับสมัครไปเรื่อยๆ และเสนอให้ใช้ระบบสรรหาผู้เชี่ยวชาญประจำคณะกรรมการกองทุนฯ จากเดิมที่ใช้วิธีการแต่งตั้ง
“ขณะนี้มีการออกระเบียบสำนักนายกฯ และเปิดรับสมัครซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ที่แก้ไขได้อยู่คือเรื่องที่มาของผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการกองทุนฯ ทั้งในระดับชาติและประดับท้องถิ่นที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง ฉะนั้นขอให้ผู้หญิงลงสมัครหรือเลือกคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ อย่าไปคิดว่าเป็นเงินสำหรับเสื้อสีอะไร นี่เป็นเงินภาษีเราทุกคน ฉะนั้นเราต้องร่วมบริการกองทุนฯ” นางกรวิภา กล่าว .
ที่มาภาพ : http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?book=21&chap=3&page=t21-3-infodetail01.html