WFP รายงานโรฮิงยากว่าแสนคนเผชิญภาวะขาดแคลนอาหาร
WFP รายงานพบชาวโรฮิงยากว่าแสนคน ยังขาดแคลนอาหาร ปัจจัยพื้นฐาน เด็กเข้าภาวะเสี่ยงโรคขาดสารอาหาร จี้รัฐบาลเมียนมาเปิดทางความช่วยเหลือน วอนให้คำนึงสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการอาหารโลกหรือ WFP ได้ออกรายงานถึงสถานการณ์ขาดแคลนอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์โรฮิงยาในพื้นที่รัฐยะไข่ โดยพบว่า ปัจจุบันมีชาวโรฮิงยากว่า 100,000คน โดยในจำนวนนี้มีเด็กราว80,000 คน ยังคงขาดแคลนอาหารและปัจจัยพื้นฐาน แม้ว่า สถานการณ์ความรุนแรงจากกองทัพจะหยุดลงชั่วคราว
WFP ระบุว่า กลุ่มคนเหล่านี้กำลังเผชิญหน้าต่อความเสี่ยงทางโภชนาการที่ร้ายแรง หากยังไม่รีบให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะภาวะขาดสารอาหารในเด็กซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโต และเสี่ยงถึงชีวิต
WFP ยังระบุอีกว่า การกีดกันความช่วยเหลือจากภายนอกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ชาวโรฮิงยาจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพไม่สามารถเข้าถึงอาหารตามหลักโภชนาการได้อย่างเพียงพอ
โดยทาง WFP ยกให้สถานการณ์ครั้งนี้เป็นความรุนแรงทางโภชนาการที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์
ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลเมียนมาได้ประกาศปฏิเสธในตัวแทนขององค์การสหประชาชาติในการเข้ามาสอบสวนประเด็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงยา ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่รัฐบาลเมียนมาไม่รับรองว่าเป็นคนในประเทศ
อ่านประกอบ(รัฐบาลเมียนมา ปฏิเสธให้ยูเอ็นเข้าตรวจสอบประเด็นฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโรฮิงยา)
WFP เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาเร่งจัดการปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยของให้คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของชาวโรฮิงยา รวมไปถึงการเปิดทางให้องค์กรภายนอกเข้าช่วยเหลือเพื่อช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยเร็ว
ด้าน Human Right Watch รายงานว่า ช่วงที่กองทัพทางการเมียนมาทำการกวาดล้างชาวโรฮิงยา ได้มีการปิดกั้นไม่ให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยชน ทั้งด้านอาหารและปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ รวมทั้งการปิดกั้นสื่อมวลชน องค์กรเอ็นจีโอ ด้านรัฐบาลเมียนมาได้ประกาศยุติปฏิบัติการในพื้นที่เมื่อกุมภาพันธ์ 2017 แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีหลายพื้นที่ที่ยังคงมีการตรึงกำลัง
ที่มาข่าวhttps://www.hrw.org/news/2017/07/07/burmas-manmade-disaster
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อียูเรียกร้องรัฐบาลเมียนมาหยุดคุกคามสื่อ หลังทหารจับ 3 นักข่าว