เฟซบุ๊คตั้งค่าหัวสะท้อนสงครามไอโอ ชาวบ้านบ่นเบื่อทั้งสองฝ่าย
การโพสต์เฟซบุ๊คตั้งค่าหัวแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นเงิน 1 ล้านบาท พร้อมคำประกาศ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" นั้น หากให้น้ำหนักว่าไม่ได้ทำโดยฝีมือของบรรดา "เกรียนคีย์บอร์ด" แต่เป็นคนหรือแนวร่วมของกลุ่มขบวนการที่ต่อสู้กับรัฐอยู่จริง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่างของการทำสงครามข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ (Information Operation) ที่เข้มข้นขึ้นทั้งสองฝ่าย
ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าฝ่ายรัฐได้เปิดปฏิบัติการไอโออย่างหนักมาระยะหนึ่ง ทั้งดักทางความเคลื่อนไหว สร้างความคิดความเชื่อในแนวทางที่ถูกต้อง (ในมุมของรัฐ) ให้กับคนในพื้นที่ และขณะเดียวกันก็ดิสเครดิตกลุ่มผู้ก่อเหตุรนแรง
แต่ไปๆ มาๆ ก็ทำกันเลยเถิดจนกลายเป็น "ไอโอสีดำ" หรือ black IO เล่นงานลุกลามไปถึงสื่อมวลชน เอ็นจีโอที่รัฐเชื่อว่ายืนอยู่ตรงกันข้าม ทั้งๆ ที่ยืนอยู่ข้างเดียวกัน คือต้องการสันติสุข แถมยังให้ข้อมูลเท็จ ด่าทอฝ่ายตรงข้ามเกินจริง จนกลายเป็น "ไม่น่าเชื่อถือ" ทั้งๆ ที่หลักใหญ่ใจความที่สำคัญที่สุดของ IO คือการใช้ "ความจริง"
ปัจจุบันกลุ่มขบวนการและแนวร่วมผู้สนับสนุน ก็ใช้พื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ในการต่อสู้กับฝ่ายรัฐ ทั้งปล่อยข่าวจริง ข่าวลวง สร้างความเข้าใจผิด ข่มขู่ และกระทำการรูปแบบต่างๆ เพื่อหวังผลทางจิตวิทยา มีการเปิดบัญชีเฟซบุ๊คใหม่ๆ ขึ้นจำนวนมากอย่างผิดสังเกต
สมรภูมิไซเบอร์กำลังเป็นแนวรบใหม่ที่เข้มข้นในสงครามที่ปลายด้ามขวาน...
แต่ในมุมมองของชาวบ้านในพื้นที่ พากันบ่นเบื่อกับสภาพที่เผชิญอยู่
"ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ได้หันมาใช้โซเซียลฯในการปลุกกระแส ไม่ต่างจากกลุ่มขบวนการเลย คำว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน สำหรับคนสองฝ่ายนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การประกาศตัดหัว หากมองในมุมศาสนา ไม่มีการสอนให้ทะเลาะหรือฆ่ากัน โดยเฉพาะการตัดหัว ซึ่งจะทำให้อีกฝ่ายหมดอิสรภาพ แค่ความคิดในอิสลามยังห้าม ไม่ต้องไปคิดถึงการกระทำว่าจะทำได้หรือไม่" เป็นความรู้สึกของ นายนาแว (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านใน จ.ปัตตานี
ขณะที่ทนายคนหนึ่งซึ่งมีบทบาททำคดีความมั่นคงอยู่ในพื้นที่ มองต่างมุมออกไป
"เรื่องตั้งค่าหัวแม่ทัพ เราได้ยินชาวบ้านในพื้นที่คุยกันตั้งแต่ก่อนรายออีฎิ้ลฟิตรีแล้วว่าจะเล่นงานเจ้าหน้าที่ระดับสูง ฉะนั้นก็ไม่ควรประมาท เพราะกลุ่มที่เขาจะทำเขาแค่รอโอกาสและจังหวะ ไม่อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องขำ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หากชาวบ้านในพื้นที่มีการพูดถึงขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแกล้งกันอย่างแน่นอน ซึ่งมันอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ก็ไม่ควรประมาท"
จะว่าไปแล้วการใช้ถ้อยคำ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ของคนที่โพสต์เฟซบุ๊คตั้งค่าหัว ก็สะท้อนสถานการณ์จริงบางด้านในพื้นที่ โดยเฉพาะจากท่าทีของแม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบัน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงกับกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐมาโดยตลอด ทั้งดิสเครดิต ทั้งมองว่าไม่มีศักยภาพหลงเหลืออยู่แล้ว ขณะที่การวิสามัญฆาตกรรมก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ลดน้อยลง เช่นเดียวกับการไล่ฆ่าทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ และคนที่ทำงานให้รัฐ ก็ยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ แทบจะรายวัน
สถานการณ์ที่ชายแดนใต้เหมือนกำลังหมุนวนเป็นลูกข่าง สักพักก็อ่อนแรงลง สักพักก็ถูกปั่นขึ้นมาใหม่ แต่ลูกข่างลูกนี้กำลังหมุนอยู่ในกระบะที่ไม่มีทางออก...
--------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บัญชีเฟซบุ๊คและภาพสเตตัสของผู้ที่โพสต์ข้อความตั้งค่าหัวแม่ทัพภาคที่
อ่านประกอบ : แม่ทัพภาค 4 ไม่เครียดถูกตั้งค่าหัว 1 ล้าน บอกถูกกว่านกกรงหัวจุก!