ความสูญเสียที่ยากจะยอมรับของครอบครัว 3 วัยรุ่นที่ปะนาเระ
"คาดว่าน่าจะจับไม่ได้ ไม่อยากหวังอะไร พยายามระวังชีวิตให้ปลอดภัยก็พอ"
นี่คือเสียงแห่งความสิ้นหวังของผู้สูญเสียอย่าง นพ เต้เอี๋ยว พ่อของ พีระพัฒน์ เต้เอี๋ยว หนึ่งในสามวัยรุ่นที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายดักยิงระหว่างไปหาของป่าใน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิ.ย.60
วัยรุ่นกลุ่มนี้มี 5 คน เป็นชาว ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทั้งหมดอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 3 คน นอกจาก พีระพัฒน์ ซึ่งเรียนอยู่ชั้นปวช. 3 วิทยาลัยเทคนิคปัตตานีแล้ว ยังมี อรรถวุฒิ จันทร์หอม อายุ 19 ปี และ ณัฐภพ อินทรทิตย์ อายุ 18 ปีที่พยายามวิ่งหนีกระสุน แต่ก็ไม่พ้น ไปเสียชีวิตในพงป่า
ส่วนอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ คือ วราวุฒิ คำแก้ว อายุ 18 ปี และน้องเล็ก อนุมาส ทิพยวงศ์ อายุเพียง 13 ปี เรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา
ครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้งสาม ร่วมกันจัดพิธีศพในวัดเดียวกัน คือ วัดดอนกลาง
งามศุกร์ รัตนเสถียร จากสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล บอกเล่าข้อมูลและถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า "ทราบข่าวจากพี่ที่เคารพว่า ได้มีการเผาทั้ง 3 ที่เชิงตะกอนชั่วคราว เพราะไม่มีที่เผา โดยหนึ่งในคนที่เสียชีวิต ภรรยาเพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน...ทราบว่าคนในหมู่บ้านเริ่มหมดกำลังใจ ต้องเจอทั้งปัญหาปากท้องและสถานการณ์ความรุนแรง และรู้สึกโดดเดี่ยวมาก"
นพ เต้เอี๋ยว พ่อของพีระพัฒน์ ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทปลาป่นแห่งหนึ่งในตัวเมืองปัตตานี บอกว่า ลูกชายเรียนชั้นปวช.3 วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ปกติจะพักกับพ่อแม่ที่ทำงานในตัวเมืองปัตตานี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์บางสัปดาห์จึงกลับมาหาย่าหายายที่ปะนาเระ
"เขาจะพักกับพ่อและแม่ที่บ้านพักในโรงงานปลาป่นแถวสะพานปลา อาทิตย์ไหนที่เขาว่างก็จะกลับมาหายายหาย่า ช่วยดูแลยายและย่า ปกติก็ไม่ค่อยออกไปหาของป่ากัน วันนั้นไปกับพิไลพร เพื่อน แล้วไปในพื้นที่ที่ไม่เคยไป บอกว่าจะไปหาสัตว์ป่าแล้วก็ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ" นพเล่าถึงชะตากรรมของลูกชาย
พิไลพร เต้เอี๋ยว แม่ของพีระพัฒน์ ทำงานเป็นพนักงานร้านสุกี้ในห้างบิ๊กซีปัตตานี เมื่อบิ๊กซีโดนระเบิด ร้านสุกี้ได้รับความเสียหาย จึงย้ายไปทำงานที่สาขาหาดใหญ่ เมื่อได้รับข่าวร้ายจากสามีว่าลูกชายถูกยิง เธอบอกว่าเรี่ยวแรงแทบไม่มี และรีบกลับบ้าน
"ตอนนั้นอยู่ที่หาดใหญ่ แฟนโทรไปบอกว่าพัฒน์ถูกยิง มือไม้อ่อนไปหมด ทำอะไรไม่ถูก นั่งรถตู้กลับมากับพี่สาว ไม่ได้เข้าไปดูที่เกิดเหตุ ไม่อยากดูให้ภาพติดตา" เธอเล่าด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ
ทั้งนพและพิไลพรต้องสูญเสียลูกชายคนโต ทำให้ทั้งคู่เหลือลูกสาววัย 13 ปีเพียงคนเดียว เรียนที่ปะนาเระ ลูกสาวอยู่กับยาย สองสามีภรรยาได้กลับมาบ้านเกิดในวันที่หยุดงานพร้อมกันจึงจะได้พบหน้าลูกสาว เป็นวงจรชีวิตคนต่างจังหวัดที่ต้องปากกัดตีนถีบ ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพ่อ-แม่-ลูกมากนักเหมือนที่ใครๆ คิด
เมื่อถามถึงความคาดหวังในการจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ นพบอกว่า คาดว่าน่าจะจับไม่ได้ ไม่อยากหวังอะไร พยายามระวังชีวิตให้ปลอดภัยก็พอ
ป้าผ่อง เต้เอี๋ยว ย่าของพีระพัฒน์ ซึ่งเคยสูญเสียลูกชายและลูกสะใภ้จากสถานการณ์ความไม่สงบเมื่อปี 55 ปัจจุบันป้าผ่องอยู่ที่บ้านในเนื้อ ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ ซึ่งพีระพัฒน์มักจะไปหาและดูแลจนเป็นหลานรัก เมื่อต้องสูญเสียหลานชายไปอีกคน ป้าผ่องบอกว่าเป็นความสูญเสียที่ซ้ำซ้อนและกระทบจิตใจอย่างลึกล้ำ
"4-5 ปีก่อนก็สูญเสียลูกชายไปแล้ว มาถึงหลานอีก มันขาดความอบอุ่นเข้าไปอีก เขาเป็นส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็มชีวิตหลังจากที่เสียลูกชายไป พัฒน์เป็นหลานรักของป้า คอยดูแลป้าเมื่อกลับมาบ้าน จากนี้ก็ไม่รู้ว่าใครจะเหมือนเขา คิดแล้วเครียด"
ความสูญเสียซ้ำซ้อนที่ป้าผ่องได้รับ คงต้องใช้เวลาในการทำใจเพื่อให้ยอมรับได้อีกครั้ง ไม่ต่างจากความรู้สึกของพ่อแม่และครอบครัวของผู้สูญเสียทั้งสามราย ที่ต้องให้เวลาช่วยเบาบางความเสียใจ ทุกข์ใจ และยอมรับให้ได้กับความเป็นจริงอันแสนโหดร้าย
เป็นความจริงที่ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร...
----------------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง/ภาพ : เลขา เกลี้ยงเกลา
บรรยายภาพ :
1 วัดดอนกลาง สถานที่เผาศพ 3 วัยรุ่น
2 พ่อกับแม่ของพีระพัฒน์
3 พวงหรีดแทนความเสียใจ
4 ป้าผ่อง
อ่านประกอบ :
ยิงวัยรุ่นหาของป่าที่ยะหริ่งดับ 2 เด็ก ม.1 เจ็บ อีกคนยังหายตัว