ป.ป.ช.ฟันอดีต ผอ. ปปง.เรียกเงิน 20 ล.ช่วยถอนอายัดทรัพย์คดีเงินกู้ ช.พ.ค.
ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ‘อภิชาติ ถนอมทรัพย์’ อดีต ผอ.กองคดี 2 ปปง. กับพวก เรียกรับเงินค่าตอบแทน 20 ล้าน จาก ‘เกษม กลั่นยิ่ง’ อดีต ปธ.บอร์ดเงินกู้ ช.พ.ค. ช่วยเหลือทางคดีให้ถอนการอายัดทรัพย์สิน ปมทุจริตเงินกู้ ช.พ.ค.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2560 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ อดีตผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายอเนก ใจพยุงตน กรณีร่วมกันเรียกเงิน จำนวน 20 ล้านบาท จากนายเกษม กลั่นยิ่ง และนายสุรเดช พรหมโชติ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ถูกตรวจสอบทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนในการช่วยเหลือทางคดีเกี่ยวกับการถอนอายัดทรัพย์สิน
จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า สำนักงาน ปปง. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ ผู้อำนวยการกองคดี 2 เป็นหัวหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน กรณีนายเกษม กลั่นยิ่ง และนายสุรเดช พรหมโชติ ผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา สกสค. กับพวก มีพฤติการณ์ทุจริตเงินกองทุนของ สกสค.
ปรากฏว่าหลังจากที่คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้อายัดทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวแล้ว เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2558 นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ และนายอเนก ใจพยุงตน ซึ่งเป็นราษฎร ได้ร่วมกันเรียกเงิน จำนวน 20 ล้านบาท จากนายเกษม กลั่นยิ่ง และนายสุรเดช พรหมโชติ เพื่อเป็นการตอบแทนในการช่วยเหลือทางคดีเกี่ยวกับการถอนอายัดทรัพย์สิน จากนั้นมีการส่งมอบเงินให้นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ และนายอเนก ใจพยุงตน รวม 3 ครั้งๆ ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6 ล้านบาท ครั้งที่ 1 เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2558 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2558 ตามลำดับ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว จึงมีมติว่านายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ มีมูลความผิดทางวินัย อย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลนอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมายหรือกฎ ข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 กรรมหนึ่ง
และมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับของทางราชการ กระทำโดยประการใด ๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นรู้ความลับนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 164 และฐานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการเกี่ยวกับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นรู้หรืออาจรู้ความลับดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 66 อีกกรรมหนึ่ง โดยมีนายอเนก ใจพยุงตน ซึ่งเป็นราษฎร เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 พักงานไว้ ในล็อตที่ 3 ด้วย
ป.ป.ช.โชว์ข้อมูล ผอ.ปปง.เรียก20ล. ช่วยคดี สกสค. หลังโดนม.44 - เจ้าตัวขอเคลียร์'บิ๊กต๊อก'
‘บิ๊กตู่’ใช้ ม.44 ปลด ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่นกราวรูด 59 คน-พ่วง 7 บอร์ด สสส.
บริสุทธิ์จริงคืนตำแหน่งให้!ศอตช.แจงยิบเหตุชงปลด 'นักการเมือง-ขรก.-7สสส.'