ศาลปค.สูงสุด เพิกถอนคำสั่งปลดอดีตรองผู้ว่าฯ กำแพงเพชร ออกจากราชการ
ศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งปลดอดีตรองผู้ว่าฯ กำแพงเพชรออกจากราชการ ให้ปลัด มท.พิจารณากลับสู่ตำแหน่ง ไม่ต่ำกว่าเดิม ภายใน 30 วัน นับแต่มีคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 มิ.ย. 2560 ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาในคดี หมายเลขดำ ที่ ฟ. 19/2557 คดีหมายเลขแดง ที่ ฟ.25/2560 ให้เพิกถอนคำสั่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีคำสั่งปลด นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ออกจากราชการ ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 127/ 2557 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2557 เรื่อง ลดโทษผู้ฟ้องคดีจากไล่ออกจากราชการเป็นปลดออกจากราชการ และเพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม เรื่องดำที่ 5610003 เรื่องแดงที่ 0005157 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2557 ให้ลดโทษผู้ฟ้องคดีจากไล่ออกจากราชการเป็นปลดออกจากราชการ
ทั้งนี้ ให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่คำสั่งมีผลบังคับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก โดยมีข้อสังเกตว่าเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง (8) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ควรที่จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้นายจีระเกียรติกลับสู่ตำแหน่งโดยไม่ต่ำกว่าตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
คดีนี้นายจีระเกียรติ ผู้ฟ้องคดี ได้ยื่นฟ้องปลัดกระทรวงมหาดไทย, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 โดยขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 736/2555 ลงวันที่ 14 ธ.ค. 2555 เรื่องลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ และงดเว้นหรือเพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 127/2557 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2557 เรื่อง ลดโทษผู้ฟ้องคดีจากไล่ออกจากราชการเป็นปลดออกจากราชการ ที่ออกตามคำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 แล้วแต่กรณี
นอกจากนี้ยังขอให้ศาลเพิกถอนคำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ตามคำวินิจฉัยเรื่องดำที่ 5610003 เรื่องแดงที่ 0005157 และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รับผู้ฟ้องคดีเข้าทำงานในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไปในทันที และคืนสิทธิประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการของผู้ฟ้องคดีที่พึงได้รับในแต่ละช่วงเวลา
ทั้งนี้ จากกรณีนายจีระเกียรติ ซึ่งรับราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และเคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ อ.สุวรรณภูมิ (ก.ช.ภ.อ.สุวรรณภูมิ) เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2555
ต่อมาปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่ง ที่ 736/2555 ลงวันที่ 14 ธ.ค. 2555 เรื่องลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตามฐานความผิดที่ ป.ป.ช. มีมติว่า การกระทำของนายจีระเกียรติ กรณีรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยอันเป็นความเท็จและกรณีอนุมัติให้ว่าจ้างผู้รับจ้าง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า คณะกรรมการเจรจาต่อรองและตกลงราคาจ้างไม่ได้เจรจาต่อรองราคากับผู้รับจ้าง มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 83 วรรสาม
ส่วนกรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบของราชการมติ ครม. และนโยบายของรัฐบาลโดยไม่เสียหายแก่ทางราชการ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 85 วรรคหนึ่ง
นายจีระเกียรติ ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ จึงได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม แต่คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ คณะที่ 7 เสียงข้างมาก มีคำวินิจฉัยให้ลดโทษไล่ออกจากราชการเป็นปลดออกจากราชการ ดังนั้นการลงโทษปลดออกจากราชการในฐานความผิดวินัยไม่ร้ายแรงย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำมาสู่การยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด และมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวออกมา