จุฬาฯ พัฒนาเครื่องมือ CU-BTI วัดความไว้วางใจเเบรนด์อสังหาฯ -LH-พฤกษา นำโด่ง
จุฬาฯ พัฒนาเครื่องมือวัดความไว้วางใจเเบรนด์อสังหาริมทรัพย์ CU-BTI สำเร็จเป็นครั้งเเรก ให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำไปใช้ฟรี ขณะที่ผลรางวัล Thailand ‘s Top Brand Trust in Real Estate Industry ปี 2017 LH-พฤกษา อันดับ 1 บ้านเดี่ยว คนไว้วางใจมากที่สุด
วันที่ 1 มิ.ย. 2560 ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประกาศผลวิจัยและมอบรางวัล Thailand’s Top Brand Trust ณ ห้อง 208 อาคารอนุสรณ์ 50 ปี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในการจัดงานครั้งนี้เพื่อนำเสนอผลการวิจัย เรื่อง การพัฒนาดัชนีความไว้วางใจแบรนด์อสังหาริมทรัพย์และการวัดค่าความไว้วางใจ โดยมี ศ.ดร.กุณฑลี รื่นรมย์ และดร.เอกก์ ภทรธนกุล คณะผู้วิจัยจากภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาฯ ดูแล โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากพฤกษา เรียลเอสเตท เพื่อให้เกิดการพัฒนาวิจัยในการสร้างเครื่องมือดัชนีความไว้วางใจแบรนด์ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกในประเทศไทย
ศ.ดร.กุณฑลี รื่นรมย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีขนาดใหญ่กว่า 8 แสนล้านบาท และเชื่อว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็นกว่า 1 ล้านล้านบาท แสดงให้เห็นที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญของคน แล้วสิ่งใดที่จะทำให้เกิดความไว้วางใจในการซื้อที่อยู่อาศัย จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้คิดค้นเครื่องมือวิจัยขึ้นมาสำเร็จเป็นครั้งแรก เรียกว่า CU-BTI (Chulalongkorn University:Brand Trust Index) ซึ่งแสดงให้เห็นปัจจัยที่มีผลต่อความไว้วางใจแบรนด์ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
“แบรนด์ไม่ใช่ตรา หรือยี่ห้อ ของสินค้า แต่แบรนด์ในที่นี้ หมายถึง การรับรู้ทั้งหมดที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การรับรู้ และความรู้สึกนึกคิดข้างใน ก่อนจะตัดสินใจว่า แบรนด์นั้นมีคุณภาพหรือไม่”
ศ.ดร.กุณฑลี กล่าวถึงการทำธุรกิจบริการ (Service Marketing Mix) ต้องประกอบด้วย 7 P คือ product (ผลิตภัณฑ์) Place (ช่องทางจำหน่าย) Promotion (การส่งเสริมการตลาด) Price (ราคา) People (ผู้ให้บริการ) Process (กระบวนการให้บริการ) และ Physical Evidence (ลักษณะกายภาพ) โดย People Process และ Physical Evidence สำคัญมากสำหรับผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะ Physical Evidence ด้วยแล้ว ยิ่งมีความสำคัญ เพราะลักษณะทางกายภาพ สภาพแวดล้อม ในที่อยู่อาศัย ช่วยให้เกิดความรู้สึกอยากอยู่บ้านและมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
ทั้งนี้ ข้อค้นพบเกี่ยวกับการทำธุรกิจบริการนี้ออกมาสอดคล้องกับหลักการ คือ คนให้ความไว้วางใจกับแบรนด์ที่มีการให้บริการหลังการขายมากที่สุด 4.17 รองลงมา คือ ราคาขาย 4.07 ความเอาใจใส่ในความต้องการของลูกค้า 4.02 ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการ 4.01 และสภาพแวดล้อมของโครงการที่การรักษาความปลอดภัย 4.01 จากคะแนนเต็ม 5 สังเกตได้ชัดว่า ส่วนใหญ่อยู่ในหมวดหมู่ 3 P หลังสุด
ส่วนรางวัล Thailand ‘s Top Brand Trust in Real Estate Industry ปี 2017 ซึ่งใช้เครื่องมือ CU-BTI ศ.ดร.กุณฑลี ระบุผลเเบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด มีดังต่อไปนี้
- บ้านเดี่ยว ได้แก่ LH และ พฤกษา ได้ 81 คะแนน
- ทาวน์เฮ้าส์ ได้แก่ แสนสิริ 81 คะแนน
- คอนโดมิเนียม ได้แก่ อนันดา และศุภาลัย ได้ 81 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถนำเครื่องมือวิจัย CU-BTI ไปใช้เพื่อวัดความไว้วางใจของผู้บริโภค และนำไปกำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย .