หลักฐานไม่พอ!ป.ป.ช.ตีตกคดี‘สุรเชษฐ์ หักพาล’ปมเรียกเงินคาราโอเกะทั่วอีสาน
ป.ป.ช. ไต่สวนนาน 6 ปี ก่อนมีมติตีตกคดี ‘พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล’ ปมเรียกรับเงินคาราโอเกะทั่วภาคอีสาน ช่วงนั่งเก้าอี้ ผกก.3 กองปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมวงเงินกว่า 15 ล้านบาท หลังพบว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ผู้ประกอบการให้ปากคำไม่สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2560 แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตีตกข้อกล่าวหา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.)) กรณีเรียกรับเงินจากร้านคาราโอเกะในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แล้ว เนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอ และเมื่อสอบพยาน และผู้กล่าวหา ให้การคลาดเคลื่อนกับช่วงเวลาที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 3 จึงมีมติว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียนมาตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 2554 โดยกล่าวหาว่า พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ (ยศขณะนั้น) เรียกรับเงินจากเจ้าของร้านอาหาร และร้านคาราโอเกะในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จ.หนองคาย อุดรธานี นครพนม มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ จังหวัดละประมาณ 150 ร้าน รวมประมาณ 3,000 ร้าน โดยเรียกเงินร้านละ 500-5,000 บาทต่อเดือน (รวม 1.5 ล้านบาท ถึง 15 ล้านบาท) โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาพระราม 3 โดย ป.ป.ช. ใช้ระยะเวลาไต่สวนกว่า 6 ปี กระทั่งมีมติตีกข้อกล่าวหาดังกล่าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบ ป.ป.ช. จาก thaipublica, ภาพ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ จาก lokwannee