สตง.จี้คมนาคม-ทส.ทบทวนสนามบินพะงัน! ลักไก่กม.เอกชนร่วมลงทุน-ทำลายป่าชายเลนปท.
เผยเบื้องลึกปมปัญหาสร้างสนามบินเกาะพะงัน ก่อนกรมป่าไม้ลุยดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง สตง.เคยทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม พบปัญหาขั้นตอนดำเนินการส่อลักไก่ไม่พิจารณาพ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุน แจ้งทส.สั่งทบทวนคำขออนุญาต หวั่นทำลายพื้นที่ป่าชายเลนปท.
จากกรณีปรากฎข่าวว่า นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับที่ดินจุดก่อสร้างท่าอากาศยานบนเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากพบว่าไม่มีเอกสารสิทธิหรือทำเกินกว่าเอกสารสิทธิที่นำมาแสดง และเป็นการกระทำผิดยึดถือครองที่ดินและทำประการหนึ่งประการใดให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ป่าสงวน นั้น
(อ่านประกอบ : อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งดำเนินคดีที่ดินสนามบินพะงันรุกป่าสงวน ออกเอกสารสิทธิมิชอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ในขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างสนามบินบนเกาะพะงัน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เคยตรวจสอบพบว่าน่าจะมีปัญหาการไม่ปฏิบัติตามตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556
โดยเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา สตง. ได้ทำหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อสังเกตการก่อสร้างสนามบินว่า น่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 แต่ไม่ปรากฎหลักฐานการนำกฎหมายฉบับนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตสร้างสนามบินแต่อย่างใด
เบื้องต้น สตง.ได้ขอให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาว่าการดำเนินการก่อสร้างสนามบิน มีเหตุผลความจำเป็น ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐหรือไม่ รวมทั้งมีมาตรการเพิ่มเติมประการใดเพื่อป้องกันมิให้เอกชนรายหนึ่งรายใด ใช้ประโยชน์จากการอ้างอิงการพัฒนาขนส่งและการเจรจรเพื่อประโยชน์เฉพาะตนเป็นการเจาะจง
ขณะที่แหล่งข่าวจากสตง. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ก่อนหน้าที่กรมป่าไม้ จะสั่งดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับที่ดินจุดก่อสร้างท่าอากาศยานบนเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีดังกล่าว สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ทบทวนการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ก่อสร้างสนามบินบนเกาะพะงันของบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากพื้นที่บริเวณที่ขออนุญาตเป็นพื้นที่ป่าชายเลน หากปล่อยให้มีการก่อสร้างจะทำให้เกิดผลกระทบในเชิงกว้าง นอกจากเป็นการทำลายป่าชายเลนของประเทศซึ่งไม่อาจประมาณมูลค่าความเสียหายได้ ยังกระทบความเป็นอยู่ของประชาชนในจังหวัดพังงาด้วย