อภัยให้ไม่ได้!'บิ๊กตู่'ประณามคนร้ายบึ้ม รพ.พระมงกุฎฯ ใช้ทุกทางล่าตัว-เมินถูกท้าทาย
‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาวประณามคนร้ายก่อเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ แช่งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ ลั่นใจร้าย ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง อภัยให้ไม่ได้ ไม่คำนึงถึงคนป่วย ชี้บนโลกนี้ไม่มีใครทำ ใช้ทุกวิถีทางสืบสวนเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่สนใจถูกท้าทาย แต่จะสู้ด้วยกฏหมาย - ถ้ายังไม่สงบสุขก็ไม่ต้องเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันครบรอบการรัฐประหาร 3 ปี ของ คสช. ว่า ไม่ทราบว่าคนร้ายมีวัตถุประสงค์ ให้ไปถามคนร้ายเอง ตอบแทนไม่ได้ ส่วนโยงครบรอบ 3 ปี คสช. หรือไม่ ไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ขึ้นอยู่กับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง อย่าถือว่าท้าทายลองของกันเลย ทั้งนี้การครบรอบ 3 ปี ไม่อยากให้ความสำคัญมากนัก ถ้าให้ความสำคัญมากเกินไป อาจกระทบการทำงานอื่น ๆ อย่างไรก็ดีรัฐบาล และ คสช. ยืนยันว่า จะอยู่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อยู่แล้ว และทุกอย่างจะดำเนินไปตามโร้ดแม็พที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุแล้ว แต่อาจมีปัญหาบ้างเพราะติดตั้งกล้องในพื้นที่สาธารณะ คือโรงพยาบาล อาจรักษาความปลอดภัยเข้มงวดน้อยลงไป เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำเหตุการณ์ดังกล่าวในพื้นที่นี้ บนโลกนี้ไม่มีจริง ๆ คนทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทำผิดแบบให้อภัยไม่ได้ แต่จะเร่งรัดดำเนินการ จะจับตัวได้หรือไม่ได้ ก็ต้องจับให้ได้ ต้องใช้ทุกวิถีทางสืบสวน วันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ยังไม่ได้ ก็ต้องได้สักวัน แต่บางอย่างเร่งรัดมากไม่ได้ อยากให้ทบทวน และให้สื่อวิเคราะห์ดูว่า เหตุการณ์ทำนองนี้ เคยเกิดตั้งแต่ปี 2553 มีการเกี่ยวพันเชื่อมโยงกันหรือไม่
“ทำไมคนทำถึงคิดแบบนี้ ใจร้ายมาก ไม่คำนึงถึงผู้บริสุทธิ์ คนเจ็บ คนป่วย ทุกข์ทรมานอยู่แล้ว ยังทำอีก ต้องสืบสวนให้ได้ อย่าไปบิดเบือนว่ารัฐบาลทำเอง รัฐบาลบ้าที่ไหนจะทำแบบนั้น เลียนแบบคนร้าย รัฐบาลไม่เคยคิดแบบนั้น ต้องดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรในเวลานี้ อยากให้ย้อนกลับไปดูว่า ที่ผ่านมาเคยมีใครทำแบบนี้หรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เบื้องต้นฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินสถานการณ์แล้ว แต่ไม่อยากให้โทษใคร การข่าวพอมีอยู่ รู้ว่ามีคนพร้อมจะเคลื่อนไหว ทั้งการก่อการร้าย หรือผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมือง อาจเกิดขึ้นทุกพื้นที่ เมื่อคืนดูข่าวมีหลายประเทศที่เกิดคดีคล้าย ๆ ไทย มีระเบิดด้วย แต่คนละรูปแบบ ส่วนการข่าวกรอง คาดการณ์ว่าจะเจอตามลำดับ แต่ถ้าให้รู้เลยอย่างนั้นต้องเป็นสายลับ ไปอยู่ในพวกต่าง ๆ ได้รู้ว่ามันทำที่ไหนอย่างไร ถ้าจะไม่ให้เกิดแน่นอน พยายามทำตรงนี้อยู่
“คาดการณ์ตลอด แต่สิ่งที่ทุกคนคาดการณ์ว่าจะเกิดในโรงพยาบาลหรือไม่ คนเลวมันคิด ทำอะไรก็ได้ให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล แต่เป็นประเด็นที่เกิดในวันที่ 22 พ.ค. เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องนำมาวิเคราะห์ด้วย ทำในโรงพยาบาลทหาร และทำร้ายประชาชน ถึงแม้เป็นข้าราชการ ไม่ชอบทหาร แต่อย่าลืมว่าเป็นคนไทยทั้งหมด ถ้าหวังผลทางการเมืองแล้วทำแบบนี้ คิดว่าคนเหล่านั้นคงโดนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษทั้งหมด แต่ประชาชนศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ขอให้สอดส่องอย่าให้ใครมาทำอะไรในวันหน้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องราวที่เกี่ยวกับห้องวงษ์สุวรรณ อย่าใช้คำว่าท้าทาย หรือโจมตี รัฐบาลไม่ได้รบ แต่เป็นเรื่องคนก่อเหตุร้าย คนเลว ไม่เลวจริง ๆ ทำไม่ได้ ใจร้ายไม่พอ คนเหล่านี้ใจร้ายพอจะฆ่าใครก็ได้ สุ่มเสี่ยงบาดเจ็บ ซึ่งมีอยู่ทุกประเทศ เรื่องท้าทายไม่ได้สนใจ ตนไม่สู้ แต่ใช้กฎหมายทำงานให้ดีที่สุด คนทำที่หวังผลนั้นเห็นแก่ตัวอย่างร้ายแรง
ส่วนจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เพิ่มความเข้มงวด และรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่แล้ว เพราะทุกสถานที่มีความเสี่ยง เช่น สถานที่ราชการ เขตพระราชฐาน กระทรวง ทบวง กรม ค่ายทหาร แต่คนที่เดือดร้อนคือประชาชนที่มาติดต่อ เพราะเข้าออกยากขึ้น ต้องถูกตรวจสอบมากยิ่งขึ้น เสียเวลามากขึ้น นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจว่า คนที่ทำแบบนี้ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย
ส่วนกรณีกำหนดวันเลือกตั้งนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดำเนินการตามโร้ดแม็พ จะให้ถึงกับกำหนดวันเลยหรือ ไม่สามารถทำได้ กำหนดได้แค่ปี แต่ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ขยับไปหน่อย เช่น กรณีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นเรื่องที่คนไทยไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็เดินหน้าไปตามนี้ ยังไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าบ้านเมืองยังเป็นอย่างนี้อยู่ มีการวางระเบิด หรือสงคราม การทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือมีปัญหาเดิม ๆ แล้วจะเลือกตั้งกันได้หรือไม่ กำหนดไปก็เท่านั้น ทุกคนต้องร่วมมือกัน อย่าให้รัฐบาลกำหนดทั้งหมด ไม่ได้ขึ้นอยู่ตรงนั้น แต่จะให้เร็วที่สุดอย่างไร บังคับใครไม่ได้ในการเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย อย่าอ้างตรงนู้นตรงนี้ รัฐธรรมนูญว่ามาอย่างไร เป็นไปตามนั้น เว้นแต่บ้านเมืองไม่สงบสุข เอาอย่างนี้แล้วกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า คสช. และรัฐบาลขอบคุณประชาชนที่ให้เวลา และโอกาสรัฐบาล จนทำงานครบ 3 ปีได้ และทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี หลายอย่างแก้ไขได้ หลายอย่างยังแก้ไขไม่ได้เพราะมีความสลับซับซ้อน แต่จะใช้เวลาที่มีอยู่ในการดำเนินการทำให้เกิดขึ้นได้ อย่างน้อยเรื่องที่ใช้เวลานานต้องเริ่มต้นให้ได้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป ปัญหาต่าง ๆ ที่มีมา 3 ปี ยังคงมีอยู่อีกมาก ใช้เวลาไป 3 ปีแล้วยังแก้ไขได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ในช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ได้ลาการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีนี้สั้น ๆ ว่า “แล้วเป็นไง ท่านจะลาบ้างไม่ได้เหรอ”
อนึ่ง เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2560 เกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า บริเวณห้องจ่ายยานายทหารชั้นสัญญาบัตร ของห้อง ‘วงษ์สุวรรณ’ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เป็นระเบิดจริง แบบ ‘ไปป์บอมบ์’ ข้างในบรรจุตะปู ที่คนร้ายนำมาใส่ไว้ในแจกัน ส่วน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นฝีมือของคนกลุ่มใด
อ่านประกอบ : บึ้ม รพ.พระมงกุฎฯโยง 2 เหตุป่วนกลางกรุง ชี้ระเบิดชุดเดียวกัน - ท้าทายอำนาจคสช.?