อธิบดีกรมบัญชีกลางแจ้งกรมราชทัณฑ์ทำผิด! ตั้ง‘คู่ค้าช่วง’ส่งอาหารเรือนจำ
ชัด! อธิบดีกรมบัญชีกลาง ส่งหนังสือแจ้ง กรมราชทัณฑ์ ตอบข้อหารือปม ชุมนุมสหกรณ์ฯคู่สัญญา จ้างเอกชนเป็น ‘ตัวแทนช่วง’ ส่งอาหารให้เรือนจำ จ.จันทบุรี ชี้ผิดหลักการผู้ได้รับสิทธิพิเศษ กำชับอย่าให้เกิดอีก พบที่ผ่านมา 4 หน่วยงานใช้วิธีจ้าง ‘5 เสือ’ฟันส่วนต่างอีกทอด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลาง โดย น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีฯ ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตอบข้อหารือกรณีจังหวัดจันทบุรีได้มีหนังสือหารือมายังกรมราชทัณฑ์ว่า ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย (ชสท.) เป็นผู้เสนอราคาได้ และทำสัญญาจะซื้อจะขายเครื่องอาหาร (อาหารดิบพร้อมเครื่องปรุงเป็นรายสิ่ง) เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2559 ในวงเงิน 22,498,182 บาท โดยมอบหมายให้บริษัท อัลเตอร์เนทีฟ เมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการส่งมอบเครื่องอาหาร แทนชุมนุมสหกรณ์ฯ สามารถทำได้หรือไม่ เพียงใด
กรมบัญชีกลางมีความเห็นสรุปว่า
1.เมื่อหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษรายใด ได้รับเลือกให้เป็นคู่สัญญาภายใต้คุณสมบัติว่า คู่สัญญารายนั้นเป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กรมฯ และเรือนจำกำหนดได้ การที่คู่สัญญานำงานที่ตนได้รับไปมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ปฏิบัติตามสัญญาแทนตน นั้น จึงไม่เป็นไปตามหลักการที่หน่วยงานนั้น ๆ ได้รับสิทธิพิเศษในการคัดเลือกคู่สัญญาของกรมฯ และเรือนจำ
2.กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือแจ้งจังหวัดจันทบุรีในกรณีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
3.ขอให้กรมราชทัณฑ์ กำกับดูแล ควบคุมการปฏิบัติตามสัญญาโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป
เนื้อหาของหนังสือมีรายละเอียดดังนี้
คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อกรมราชทัณฑ์ และเรือนจำแต่ละแห่งเลือกใช้วิธีการจัดซื้ออาหารดิบโดยวิธีกรณีพิเศษกับหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษในการจำหน่ายข้าวสาร และเครื่องอุปโภคและบริโภค คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสท.) และสถาบันเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ที่สุด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงทางอาหาร การได้รับงบประมาณที่ไม่เพียงพอต่อการจัดซื้ออาหารดิบทั้งปีงบประมาณ และประการสำคัญคือ เพื่อป้องกันการลักลอบการนำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำ ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของกรมฯ และของเรือนจำแต่ละแห่งได้ นั่นย่อมหมายความว่าการที่กรมฯ และเรือนจำแต่ละแห่งเลือกวิธีการจัดซื้ออาหารดิบโดยวิธีกรณีพิเศษกับหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษในเรื่องดังกล่าวนั้น เป็นการเลือกคู่สัญญาโดยการพิจารณาคู่สัญญาที่มีคุณสมบัติว่า ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กรมฯหรือเรือนจำแต่ละแห่งกำหนด
ดังนั้น เมื่อหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษรายใด ได้รับเลือกให้เป็นคู่สัญญาภายใต้คุณสมบัติว่าคู่สัญญารายนั้นเป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กรมฯ และเรือนจำกำหนดได้ การที่คู่สัญญานำงานที่ตนได้รับไปมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ปฏิบัติตามสัญญาแทนตน นั้น จึงไม่เป็นไปตามหลักการที่หน่วยงานนั้น ๆ ได้รับสิทธิพิเศษในการคัดเลือกคู่สัญญาของกรมฯ และเรือนจำ
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือแจ้งจังหวัดจันทบุรีในกรณีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และขอให้กรมราชทัณฑ์ กำกับดูแล ควบคุมการปฏิบัติตามสัญญาโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดซื้ออาหารดิบของกรมราชทัณฑ์มีงบประมาณแต่ละปีประมาณ 5 พันล้านบาท หลายปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาร้องเรียนหลายประการ
1.ประเด็นการสมยอมราคาในการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ
2.หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษเป็นคู่สัญญาแล้วได้ว่าจ้างเอกชนรายใหญ่ (5 เสือ) เป็นตัวแทนจัดส่งอาหารดิบ (ตัวแทนช่วง) ให้เรือนจำอีกทอด โดยหน่วยงานได้ส่วนต่าง 3-5%
3.ปัญหาการเรียกหัวคิวของหน่วยงานคู่สัญญากับเอกชนที่เป็นตัวแทนช่วง เช่น คดีของอดีต รอง ผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตร เรียกรับเงิน เป็นต้น
ปัญหาดังกล่าว ผู้ประกอบการบางราย ได้เรียกร้องต่อรัฐบาลให้ใช้จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์กับเรือนจำทุกแห่ง (อี-บิดดิ้ง) จะเป็นแนวทางที่โปร่งใสมากกว่าการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ
อ่านประกอบ:
ศาลคดีทุจริตฯจำคุก รอง ผอ.อ.ต.ก. 8 ปี เรียกรับหัวคิวจัดซื้ออาหารดิบ 1.5 ล.
สหภาพฯอ.ต.ก.จี้องค์กรปราบทุจริตสอบ“พงศ์วิทย์”ปมเรียกรับเงิน 1.5 ล
สั่งพักงาน"บิ๊ก อ.ต.ก."- ขีดเส้น 30วัน รู้ผลสอบคดีเรียกเงินค่าอาหารเรือนจำ