เทียบหลักฐานบึ้มกรุง "การเมือง" หรือ "ป่วนใต้ขยายวง"
ข้อมูลจากรองผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ที่บอกว่ารูปแบบของระเบิดและอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่พบหลังเสียงตูมสนั่นหน้าโรงละครแห่งชาติ มีความคล้ายคลึงกับระเบิดที่คนร้ายใช้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงปี 2550-2551 นั้น สอดรับกับข้อมูลการวิเคราะห์ของนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งติดตามรูปแบบระเบิดที่ชายแดนใต้มาอย่างยาวนาน
ผู้เชี่ยวชาญด้านวงจรระเบิด บอกว่า ทั้งรูปแบบและอุปกรณ์ที่ใช้มีความคล้ายคลึงกัน คือมี "ไอซี ไทม์เมอร์" หรืออุปกรณ์หน่วงเวลาระเบิด และต่อวงจรลักษณะเดียวกัน แต่ "ไอซี ไทม์เมอร์" ที่พบจากเหตุระเบิดที่หน้าโรงละครแห่งชาติ เป็นรุ่นเก่ากว่า ขณะที่แผงวงจรยังใช้แบบสำเร็จรูปที่นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปบัดกรีประกอบเอง ต่างจากแผงวงจรที่พบในระยะหลังในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ใช้ "ไมโคร คอนโทรลเลอร์" หรืออุปกรณ์ควบคุมขนาดเล็ก โดยเขียนแผงวงจรขึ้นเอง ซึ่งถือว่ามีพัฒนาการ
ความเป็นได้หากวิเคราะห์จากอุปกรณ์ที่พบก็คือ คนร้ายอาจเป็นเครือข่ายของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำระเบิดเก่ามาใช้งาน ซึ่งอาจต้องการขยายพื้นที่ปฏิบัติการ หรือรับจ้างจากกลุ่มการเมือง แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันที่กลุ่มการเมืองทำลอกเลียนแบบให้คล้ายคลึงกับระเบิดที่ปลายด้ามขวาน เพื่อเบี่ยงเบนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า เมื่อหลักฐานออกมาค่อนข้างชัดแบบนี้ ก็ต้องประเมินกันใหม่ว่าเป็นการขยายพื้้นที่ปฏิบัติการของกลุ่มเคลื่อนไหวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ เพราะทฤษฎีเดิมที่เคยเชื่อว่าความรุนแรงจำกัดเฉพาะสามจังหวัดนั้น วันนี้อาจใช้ไม่ได้แล้ว แต่การหาคำตอบในประเด็นนี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่รอบคอบ การพูดเพื่อเบี่ยงเบนปัญหาจะกระทบภาพใหญ่ของงานความมั่นคงในระยะยาว
นักวิชาการด้านความมั่นคงยังเตือนว่า อย่าพยายามนำเรื่องขั้วการเมืองเก่าเข้ามากลบปัญหาที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นการตั้งธงล่วงหน้าเหมือนเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ที่ด่วนสรุปว่ากลุ่มตรงข้ามรัฐบาลเป็นผู้ลงมือ จนส่งผลทำให้ทิศทางการวิเคราะห์เหมือนถูกชี้นำจากผู้มีอำนาจ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์เลยกับการจัดการปัญหาที่แท้จริง
"งานความมั่นคงไม่มีความจำเป็นต้องรีบเร่งฟันธง แต่ต้องการความละเอียดรอบคอบในการวิเคราะห์ปัญหา ดังตัวอย่างของการจัดการสถานการณ์ก่อการร้ายในตะวันตกที่ไม่รีบฟันธง แต่ใช้ความรอบคอบในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บวัตถุพยานและหลักฐานต่างๆ เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนแก่สังคม" ศ.ดร.สุรชาติ ระบุ
แม้หลักฐานจะบ่งชี้ความเชื่อมโยงไปถึงปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จนถึงขณะนี้หน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วยก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่ากลุ่มป่วนใต้จะขยายพื้นที่ปฏิบัติการ และยังไม่ตัดประเด็นการเมืองทิ้ง
เหตุผลที่นำมาสนับสนุนว่าระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติอาจไม่ใช่ฝีมือของทีมงานจากปลายด้ามขวานก็คือ ระเบิดลูกเล็กเกินไป เล็กกว่าที่เคยก่อเหตุแทบทุกครั้งในพื้นที่สามจังหวัด ขณะที่รูปแบบการวางก็ใช้คนน้อย ไม่เป็นเครือข่าย ที่สำคัญคือไม่มีข้อมูลการข่าวยืนยันว่ามีการส่งคนขึ้นมาปฏิบัติการในกรุงเทพมหานคร
ส่วนเหตุผลสนับสนุนที่ทำให้หน่วยงานความมั่นคงบางหน่วยเทน้ำหนักไปที่เรื่องการเมืองก็คือ ก่อนหน้าเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ มีความเคลื่อนไหวเผารูปบุคคลสำคัญที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน จนนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายฮาร์ดคอร์ของกลุ่มการเมืองสีเสื้อ ขณะที่ฝ่ายตำรวจเตรียมเปิดปฏิบัติการจับกุมอาวุธสงครามล็อตใหญ่จากกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่เชื่อมโยงกัน ฝ่ายที่ถูกรุกไล่จึงอาจใช้ระเบิดในการท้าทาย หรือส่งสัญญาณเตือนในเชิงตอบโต้
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลหลักฐานและเหตุผลสนับสนุนที่ยังไม่อาจสรุปฟันธงได้ว่า เสียงตูมสนั่นในสถานที่สำคัญและอ่อนไหวอย่างยิ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร มีสาเหตุมาจากเรื่องใดกันแน่ และโอกาสที่คำตอบจะค่อยๆ เลือนหายไปกับกาลเวลาก็มีไม่น้อย...
โดยเฉพาะหากมีบางฝ่ายได้ประโยชน์จากสถานการณ์ความไม่มั่นคง!
--------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข
อ่านประกอบ :