วาทกรรมปราบโกงจะไร้ค่า Act ท้วงรัฐต้องเพิ่ม คกก.ปราบทุจริตลงกม.ปฏิรูป
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ยื่นหนังสือท้วงรัฐบาล ให้เพิ่มคณะกรรมการด้านปราบปรามทุจริตฯ เข้าพ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. .... ชี้หากไม่มี แผนงานด้านปราบโกงไม่เกิดผล วาทกรรมนายกฯก็ไร้ค่า
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา( www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560 อาคารรัฐสภา 2 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) เข้ายื่นหนังสือถึงประะธานกรรมาธิการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อขอเสนอให้มี “คณะกรรมการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ” เข้าไปด้วย
ด้านดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ที่สนช.กำลังพิจารณา ซึ่งกำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปในแต่ละด้าน จำนวน 10 ด้าน และมีด้านอื่นๆ อีก 1 ด้าน แต่ปรากฏว่าในร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไม่มีการระบุให้ตั้งคณะกรรมการ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมไว้ด้วย
ดร.มานะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น เป็นวาระเร่งด่วนของชาติ แต่เมื่อมีการตั้ง สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กลับไม่มีกรรมการที่ทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชั่น จนเมื่อมีการทักท้วงร้องเรียน จึงยอมให้มีการจัดตั้งขึ้นมา เป็นกรรมาธิการวิสามัญ พอเป็นวิสามัญก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น เรื่องงบประมาณ เรื่องการดำเนินงาน เนื่องจากเป็นคณะกรรมการชั่วคราว ความต่อเนื่องจึงไม่มี ดังนั้งหากแผนปฏิรูปประเทศ 20 ปี ไม่มีเรื่องนี้ ความต่อเนื่องไม่เกิดขึ้นแน่นอน
“การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นที่ผ่านมา เหมือนมีคำสั่ง แต่ไม่มีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ผลจึงไม่เกิด ดังนั้นการยื่นหนังสือวันนี้ ก็หวังว่าหากมีแปรญัตติเพื่อเพิ่มคณะกรรมการฯชุดนี้เข้าไป ก็จะเกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในระยะยาวของประเทศ” ดร.มานะกล่าวและว่า แต่สิ่งที่เราได้รับฟังตอนนี้ในประเด็นการเรียกร้องให้เพิ่มคณะกรรมการด้านป้องกันแลปราบปรามการทุจริตฯ เหมือนรัฐบาลจะปิดโอกาส ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียใจมากในเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่น
ดร.มานะ กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเรื่องคอร์รัปชั่นมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ และในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็ประกาศจะให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารราขการแผ่นดิน มีธรรมาภิบาล ทุกคนพูด แต่พอจะทำก็ทำอะไรสั้นๆ ไม่ได้คิดถึงผลระยะยาว ปัญหาเลยแก้ไม่ได้
“วันนี้เรื่องคอร์รัปชั่น เราแก้เอาหน้าเท่านั้น แต่สิ่งที่จะส่งผลในอนาคตกลับไม่พูดถึง คอร์รัปชั่นต้องแก้กันยาวๆ อาศัยการวางแผนระยะยาว มิเช่นนั้น คำว่าต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ก็จะกลายเป็นวาทกรรมไร้ค่า” ดร.มานะกล่าว