สมัชชาคนจน ทวงสัญญา ครม.สัญจร “1 ปีรัฐบาลยิ่งลักษณ์แก้ปัญหาชาวบ้านไม่คืบ”
สมัชชาคนจน ยื่น ครม.สัญจรอุดรฯ ทวงสัญญาแก้ปัญหาชาวบ้าน ชี้รัฐเพิกเฉยเพราะมีเอี่ยวนายทุน ร้องชดเชยที่ทำกินเขื่อนปากมูล-หัวนา เสนอประชาชนเข้าชื่อร่าง กม.ป่าไม้ใหม่ แก้ปมพิพาทที่ดิน
วันที่ 21-23 ก.พ.ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจร ที่อุดรธานี มีกลุ่มเครือข่ายต่างๆให้รอพบนายกรัฐมนตรี อาทิ กลุ่มชาวไร่อ้อยภาคอีสาน ชมรมคนรักอุดร ชมรมคนรักภาคอีสาน และสมาคมคนตาบอดที่ยื่นหนังสือเรียกร้องการจำหน่ายล๊อตเตอรี่ราคาแพง รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายปัญหาชาวบ้านในนามสมัชชาคนจน ที่รวมตัวกันนับ 1,000 คนเพื่อยื่นหนังสือเร่งให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาต่างๆที่เคยเรียกร้องไปแล้ว ตียังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาใดๆ
นายสวาท อุปฮาด ผู้นำเครือข่ายสมัชชาคนจน เปิดเผยต่อศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศราว่า สมัชชาคนจนเป็นการรวมตัวของเครือข่ายปัญหาต่างๆของชาวบ้านทั่วประเทศ เช่น เครือข่ายป่าไม้ เขื่อน ผู้ป่วยและแรงงาน และการมายื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อกระตุ้นและติดตามการทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหา ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมายังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งๆที่หลายปัญหารัฐบาลรับปากแล้ว
“ปัญหาส่วนใหญ่เคยมีข้อตกลงกับรัฐบาลแล้ว แต่โดนหักหลังด้วยการนิ่งเฉย ไม่ว่าจะเป็นกรณีชาวบ้านต้องเสียที่ดินทำกินให้สร้างเขื่อนเพื่อแก้ภัยแล้ง โดยไม่ได้รับการชดเชย เช่น เขื่อนหัวนา หรือเขื่อนปากมูลที่เรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำ เร่งจัดสรรที่ดินทำกินชดเชยครอบครัวละ 15 ไร่ ส่วนเขื่อนแก่งเสือเต้นก็เรียกร้องให้รัฐบาลคิดให้รอบคอบและเปิดให้ประชาชนร่วมตัดสินใจ เพราะงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าไม่คุ้มที่จะสร้างเพราะไม่แก้น้ำท่วม และกระทบป่าสักทอดงผืนสุดท้าย และชีวิตชาวบ้าน”
ผู้นำสมัชชาคนจน ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการประกาศเขตป่าไม้ทับซ้อนที่ทำกินชาวบ้าน ที่เครือข่ายฯเรียกร้องให้มีการยกเลิกและแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ทุกฉบับ เพราะนอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหายังเป็นต้นตอของปัญหาด้วย โดยให้มีการเข้าชื่อของภาคประชาชนเสนอร่างกฏหมายใหม่
“สาเหตุที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่เพิกเฉยต่อการช่วยเหลือชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการต่าง ๆ เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับนายทุน ดังนั้นสมัชชาคนจนต้องการให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะระดมความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมรับฟังปัญหาชาวบ้าน จะได้รู้ซึ้งถึงปัญหาและแก้ไขได้ถูกต้อง”
ทั้งนี้นายพายัพ ชิณวัตรและนายวิเชียร ขาวขำ ผู้ดูแลพื้นที่ภาคอีสานพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนรับหนังสือของสมัชชาคนจน และยืนยันจะนำส่งต่อให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด .