ผู้ตรวจฯรับสอบปม เสธ.ทร.ลงนามซื้อเรือดำน้ำ ถูกร้องขัด กม.-จ่ายงวดแรกส่อโมฆะ
ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องร้องเรียนจาก ‘ศรีสุวรรณ’ ปม เสธ.ทร. ลงนามจ้างจีนสร้างเรือดำน้ำ ส่อขัด พ.ร.บ.งบประมาณฯ กระบวนการไม่ผ่านรัฐสภา-สนช. จ่ายเงินงวดแรก 700 ล้าน อาจโมฆะ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2560 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ใช้อำนาจรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (2) เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง กรณีกองทัพเรือดำเนินการลงนามในสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำ S-26T แบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับรัฐบาลจีน ว่าเป็นการกระทำของหน่วยงานรัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การจัดซื้อดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.วิธีงบประมาณ พ.ศ.2502 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23 ที่ระบุว่า หน่วยงานของรัฐที่จะก่อหนี้ผูกพันต้องเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้นใช้บังคับ ซึ่งกรณีนี้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ถูกใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559 คณะรัฐมนตรีจึงสามารถอนุมัติก่อหนี้ผูกพันได้ไม่เกินวันที่ 30 พ.ย. 2559 แต่กองทัพเรือมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 18 เม.ย. 2560 ถือว่าเกินระยะเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด หรืออ้างว่ากองทัพเรือเสนอตั้งแต่ในช่วง 60 วัน แต่เหมือนกับว่าคณะรัฐมนตรียังไม่เห็นรายละเอียดของการจัดซื้อจัดจ้าง เท่ากับว่าคณะรัฐมนตรีเซ็นเช็คเปล่าให้กับกองทัพเรือหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การลงนามซื้อเรือดำน้ำแบบจีทูจีน่าจะเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง การลงทุนของประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ซึ่งกำหนดว่าต้องเสนอให้รัฐสภา หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นชอบ แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2560 พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ผู้แทนของรัฐบาลไทย ได้ลงนามข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำลำที่ 1 กับประธานกรรมการบริษัทต่อเรือของจีน ดังนั้นเพื่อให้กรณีดังกล่าวเกิดความชัดเจนว่าการกระทำเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.วิธีงบประมาณ และขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา และเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง เพื่อให้วินิจฉัยว่า การลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำจากจีนลำที่ 1 เป็นโมฆะหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้ยื่นเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเรื่องเรือดำน้ำก่อนหน้านี้ เพื่อให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพเรือ และไม่ว่าผลการพิจารณาจะสอดคล้องกับข้อเท็จจริง และเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนหรือไม่ ผลพิจารณาดังกล่าวจะเป็นเครื่องตรวจสอบการทำงานขององค์กรเหล่านั้น
ส่วนนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ระบุว่า คำร้องนี้เป็นคำร้องแรกของผู้ตรวจการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญใหม่ ยืนยันว่ามีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องดังกล่ว และเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และคำร้องชัดเจน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะเร่งเสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาโดยเร็ว ส่วนที่มีการจ่ายเงินงวดแรกวงเงิน 700 ล้านบาท ในวันที่ 24 พ.ค. 2560 ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจระงับการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ใช่ศาลที่จะไปสั่งคุ้มครองชั่วคราวได้ แต่หากท้ายสุดศาลมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ศาลสามารถสั่งเพิกถอนการกระทำที่ผ่านไปแล้ว ส่วนความเสียหายสามารถเรียกร้องทางแพ่งได้
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายงบประมาณ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว อิศรา www.isranews.org ถึงกรณีพล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ และคณะ จะเป็นผู้แทนผบ.ทร. เดินทางไปลงนามข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ลำที่ 1 ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี) กับประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ค. 2560 นี้ ว่า การทำสัญญาดังกล่าว อาจเข้าข่ายสัญญาตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 178 เรื่องการทำสัญญากับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ และยังได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสัญญาตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ ซึ่งเกี่ยวกับการก่อหนี้ผูกพันตามมติคณะรัฐมนตรีดังนั้นก่อนเซ็นสัญญาต้องมีการเสนอเรื่องให้สภาฯ พิจารณาเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญก่อน ถ้าไม่เห็นชอบสัญญาอาจจะตกเป็นโมฆะได้
นายปรีชา ยังระบุด้วยว่า หากเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่มั่นใจ ก็สามารถที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมวินิจฉัยได้ ว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายสัญญาตามมาตรา 178ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
อ่านประกอบ :
ปรีชา ชี้สัญญาเรือดำน้ำจีนอาจเข้าข่าย รธน.มาตรา 178 เสี่ยงโมฆะ-ทร.ลงนามจีทูจีแล้ว
สำนักงบประมาณ ยันจัดซื้อ 'เรือดำน้ำ' ก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ไม่ขัด กม.
ปัดผล ปย.แอบแฝง! ทร.แจงปมซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล.-ลั่นไม่เบียดบังงบอื่น
ฉบับเต็ม! ทร.แจงทำไมไทยต้องมีเรือดำน้ำ "รักษาผลประโยชน์ชาติทางทะเล"
สารพัดเหตุผล ทร.แจงทำไมไทยต้องมีเรือดำน้ำ-ปัดเป็นภาระประเทศ
ฝากคำถามให้กองทัพเรือ กรณีเรือดำน้ำ
เปิดตัวเบื้องหลังความสำเร็จแห่งการ “ดำ” อย่างโปร่งใส
'ศรีสุวรรณ'อ้างฝ่ายมั่นคงห้ามยื่นสอบปมซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล.-สตง.รับลูกลุยต่อ
ยกเหตุป้องเงินภาษีปชช.! ศรีสุวรรณ ยื่นสตง.สอบครม.อนุมัติซื้อเรือดำน้ำจีน
ทำตามขั้นตอนไม่น่ามีอะไรสงสัย!‘บิ๊กป้อม’ แจงปมซื้อเรือดำน้ำ-ไม่แถลงเพราะเรื่องลับ
แหล่งข่าวทัพเรือเผย "ต้องเรือดำน้ำจีนเพราะสัญญาณจากผู้มีอำนาจเหนือ ทร."
พล.ท.สรรเสริญ ยอมรับ 'เรือดำน้ำจีน' ผ่าน ครม.เเล้ว
โครงการเรือดำน้ำ (จีน) การแข่งขันที่โปร่งใสยุติธรรมจริงหรือ?
คนพวกนี้ใช้ไม่ได้! นายกฯขออดีตทหารอย่าพูดทำลายกองทัพปมซื้อเรือดำน้ำ
ไร้คนจาก รบ.เข้ามากอบโกย! นายกฯชี้ต้องเข้าใจซื้อเรือดำน้ำ-ใครจะหน้าด้านโกง
ยังไม่ชงจัดซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.เข้า ครม.! ‘บิ๊กป้อม’เผยอยู่ระหว่างประสานจีน
ล้วงเหตุผล ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ป้องกันความมั่นคงทางทะเล-ไฉนทำจีทูจีจีน?
ทำจีทูจีจีน! เสธ.ทร.ไฟเขียวซื้อเรือดำน้ำ 1.3 หมื่นล.ชง กห.เสนอ ครม.อนุมัติ
เพื่อชาติและราชนาวีไทย... อย่าซื้อเรือดํานํ้าตอนนี้เลย
แฉปม 'ฮั้ว' ?...ทัพเรือเลือกเรือดำน้ำจีน S26T