เน้นปราบสร้างความกลัว!ป.ป.ช.แถลงผลงาน6เดือน-ฟัน1คดีสินบนข้ามชาติ ก.ย.
ป.ป.ช. แถลงผลงาน 6 เดือนแรกปี’60 เน้นการปราบปรามสร้างความกลัวก่อน แต่ให้ความสำคัญป้องกันด้วย ประสานผู้ว่าฯ-ขรก. ทุกจังหวัดช่วยขับเคลื่อนงาน แย้มเดือน ก.ย. จ่อฟัน 1 คดีสินบนข้ามชาติจากทั้งหมด 15 เรื่อง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2560 พล.ต.อ.วัชรพล พร้อมด้วยนายปรีชา เลิศกมลมาศ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และนายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. แถลงข่าวผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ช่วง 6 เดือนแรกปี 2560 โดย พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวสรุปได้ว่า ป.ป.ช. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตก่อน เพื่อสร้างความเกรงกลัว นับว่าเป็นการป้องปราม แต่การป้องกันยังเน้นอยู่ โดยให้สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบหลัก ร่วมกับข้าราชการในจังหวัด มีฝ่าย ป.ป.ช. เป็นเลขานุการ เพื่อเสนอแนะข้อมูล และขับเคลื่อนการปลูกฝังป้องกันการทุจริต การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน สำหรับบริบทงานปราบปรามจะใช้ประโยชนจากสิ่งที่ได้รับเบาะแสมาใช้ในเชิงป้องกันจังหวัดต่าง ๆ อย่างไร เน้นการตรวจสอบทรัพย์สินอย่างไรด้วย
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีอื่น ๆ เช่น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีประกาศให้รองอธิการบดีต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินนั้นเนื่องจากในแต่ละปีรับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาทางการศึกษามาประมาณ 105 เรื่อง จากทั้งหมด 1,283 เรื่อง คิดเป็น 10% นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนเรื่องที่ดินอีกประมาณ 10% ด้วย ซึ่ง ป.ป.ช.. ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญในคดีเหล่านี้ และเป้าหมายในอีก 6 เดือนข้างหน้าต้องเอาเจ้าหน้าที่มาดูข้อมูลส่วนนี้เป็นหลัก เน้นการทำงานอย่างมีคุณภาพ พร้อมกับได้ย้ำกับทีมงานว่า คดีสำคัญอย่างการติดสินบนข้ามชาติ ต้องชัดเจน ต่อไปนี้ต้องสามารถบอกได้ว่า คดีไหนที่จะมุ่งเน้น และคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้การบ้านกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบว่า ต้องทำเรื่องใหญ่อะไรบ้าง
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า สำหรับคดีสินบนข้ามชาติ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวน 15 เรื่อง โดยจะมีเสร็จเรื่องหนึ่งในเดือน ก.ย 2560 เป็นเรื่องที่ต้องดีใจ และได้ขับเคลื่อนการทำงานด้านทุจริต เช่น กรณีนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญาในคดีเรียกรับสินบนจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ เป็นต้น ทำให้สังคมเห็นว่า การคอร์รัปชั่นมีการนำทรัพย์สินออกไปอย่างไร ต้องนำกลับคืนมาสู่รัฐให้ได้ และคนที่เอาไปต้องได้รับโทษทัณฑ์
สำหรับผลงานด้านปราบปรามการทุจริตตั้งแต่ช่วง 6 เดือนแรกปี 2560 พบว่า มีเรื่องที่อยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริง 1,677 เรื่อง เป็นของสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด 1,370 เรื่อง ของส่วนกลาง 307 เรื่อง ไต่สวนข้อเท็จจริง (มีการตั้งองค์คณะไต่สวน หรือคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือเจ้าพนักงานไต่สวน) 193 เรื่อง มีเรื่องรอเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. 27 เรื่อง
ด้านผลงานการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ได้เพิ่มเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติม 106 อัตรา ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น และดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินแล้วเสร็จ 10,756 บัญชี เป็นของสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด 10,022 เรื่อง ส่วนกลาง 734 เรื่อง รอการเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. 3,227 บัญชี โดยมีการชี้มูลความผิดกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน 49 คน และชี้มูลความผิดกรณีจงใจยื่นเท็จ หรือปกปิด 1 คน
ส่วนกรณีร่ำรวยผิดปกติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐส่วนราชการไปแล้ว 3 ราย มูลค่าความเสียหาย 760,048,101 บาท เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ 1 ราย มูลค่าความเสียหาย 65,609,784 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 825,657,885 บาท