สพฉ.เปิดสถิติสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต พบ 13 วันมีผู้ขอใช้บริการ 1 พันกว่าคน
สพฉ.เปิดสถิติให้บริการตามสิทธิ UCEP พบ 13 วันมีผู้ขอใช้บริการ 1 พันกว่าคน เป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ 538 ราย แนะประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น EMS 1669 เพื่อความแม่นยำในการแจ้งเหตุและการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ได้ทันท่วงที
เรืออากาศเอก นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงผลการปฏิบัติงานของศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศคส.สพฉ.) หรือ UCEP Coordination Center ตลอด 13 วันที่ผ่านมาว่า พบสถิติผู้ขอใช้สิทธิทั้งสิ้น 1,366 ราย เป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ 538 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยจากสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า 317 ราย จากสิทธิประกันสังคม 83 ราย จากสิทธิข้าราชการ 104 ราย และสิทธิกองทุนอื่น ๆ อีก 34 ราย
ทั้งนี้ในวันที่ 12 เม.ย. และ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงการเดินทางกลับบ้านและช่วงฉลองเทศกาลสงกรานต์วันแรก มีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ขอใช้สิทธิ UCEP มากถึง 243 คน โดยเป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ถึง 80 ราย
เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผ่านสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง และประชาชนยังสามารถแจ้งเหตุเมื่อพบผู้ป่วยฉุกเฉินผ่าน แอพลิเคชั่น “EMS1669” เพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะทำให้การแจ้งเหตุแม่นยำ และไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
"ในส่วนของแอพลิเคชั่น “EMS1669” นั้น ได้พัฒนาให้มีการใช้งานได้ง่ายมาก โดยเมื่อประชาชนพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉิน เพียงแค่กดเรียกรถพยาบาลในแอพพลิเคชั่น จากนั้นระบบจะให้ผู้แจ้งเหตุบันทึกประวัติส่วนตัว อาทิ ชื่อผู้แจ้ง เบอร์ติดต่อกลับ และระบบจะแจ้งพิกัดที่เกิดเหตุฉุกเฉินไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ศูนย์สั่งการรู้พิกัดจุดเกิดเหตุได้อย่างแม่นยำเพื่อส่งทีมกู้ชีพออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ผู้แจ้งเหตุยังสามารถแนบไฟล์ภาพเหตุการณ์ เพื่อแจ้งสถานการณ์เพิ่มเติมได้ด้วย รวมทั้งสามารถแจ้งเหตุเพิ่มเติมผ่านการสนทนากับศูนย์สั่งการได้อีกด้วย ซึ่งประชาชนที่ใช้สมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น “EMS1669” ติดเครื่องไว้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้ทันท่วงทีอีกช่องทางหนึ่งได้"
เรืออากาศเอก นพ.อัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า อยากให้ประชาชนจดจำคาถาข่มดวงที่จะทำให้รอดพ้นจากการเจ็บป่วยฉุกเฉิน คือ การคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคนขับคนนั่ง การสวมหมวกนิรภัย สำหรับประชาชนที่เดินทางไกลด้วยมอเตอร์ไซด์ การดื่มไม่ขับเพราะการดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลงและจะทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างง่ายดายได้ การหลีกเลี่ยงการใช้บริการของ "วัด" ก่อนวัยอันควร นั่นหมายถึง ถ้าเราขับขี่ดี สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย เราก็จะหลีกเลี่ยงการใช้บริการของวัดก่อนวัยอันควรได้ และข้อสุดท้ายหากง่วงก็จะต้องไม่ฝืนขับรถ ซึ่งหากเราสามมารถทำตามทุกข้อนี้ได้เราก็จะปลอดภัยในทุกช่วงเทศกาลอย่างแน่นอน