โฆษกสธ.แจ้งความเอาผิดผู้นำเข้า/แชร์ภาพข้อมูลเท็จ“บัตรทองกับรพ.ขาดสภาพคล่อง”
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แจงมีผู้ไม่ประสงค์ดี แชร์ภาพและข้อมูลที่เป็นเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากับโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง สร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชน กระทบต่อภาพลักษณ์ของระบบสุขภาพไทย ส่งกลุ่มกฎหมายแจ้งความดำเนินคดี
วันที่ 12 เม.ย.นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลจากการเฝ้าระวังด้านข่าวสารสาธารณสุข พบมีการเผยแพร่ภาพและข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรงพยาบาลรัฐขาดทุน โดยมีภาพตัดต่อเติมหรือดัดแปลงและข้อความที่สื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่ารองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กล่าวข้อความนั้น สร้างความเข้าใจผิดกับประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสาร และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของระบบสุขภาพไทย
"เบื้องต้นมอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สืบค้นหาผู้นำเข้าและเผยแพร่ภาพและข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ และให้กลุ่มกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุข แจ้งความดำเนินคดีผู้นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลภาพและข้อความดังกล่าว"
โฆษกสธ.กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด
ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 14 ที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวต่อ การส่งต่อข้อมูลใดๆ ให้ผู้อื่น ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ “เช็คก่อนแชร์”ทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นพ.เกียรติภูมิ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการกระจายงบประมาณได้รับการจัดสรรจำนวน 5,000 ล้านบาท จาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีแผนกระจายงบประมาณดังนี้
1.สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการให้บริการผู้ป่วยใน ของหน่วยบริการทุกระดับ
2.แก้ไขสภาพคล่องของโรงพยาบาลทั้งระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนที่มีปัญหาวิกฤติทางการเงิน
3.สนับสนุนการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท ในส่วนที่เคยขอรับงบประมาณไป 3,000 ล้านบาท แต่ได้รับมาจากสำนักงบประมาณเพียง 2,000 ล้านบาท ในปี 2560 ซึ่งจะครอบคลุมบุคลากรสาธารณสุขทุกระดับ ตั้งแต่โรงพยาบาลจังหวัดถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ทั้งนี้ คาดว่าคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติงบประมาณ 5,000 ล้านบาทนี้ หลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ช่วยธำรงรักษาคนไว้ในระบบและเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน