2 ศิลปินดังร่วมค้านโครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา
ในกรุงเทพฯ จุดที่สวยที่สุด คือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นคิดว่า ต้องสร้างทางเลียบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆ คงรู้สึกเหมือนกำลังโดนแย่งกรุงเทพฯไป เป็นการดึงความสวยงามของบ้านเราไป "ผมเป็นคนที่รักเมืองเก่าเหลือเกิน ชุมชนที่ใช้ชีวิตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาเป็นร้อยปีคงเดือดร้อนกว่าผมมาก":น้อย วงพรู
เมื่อเร็วๆ นี้ สมัชชาแม่น้ำ Frineds of the river จัดงานที่ใช้ชื่อว่า "River of No Return หยุดทางเลียบก่อนที่จะสาย เพราะแม่น้ำไม่ไหลย้อนกลับ" โดยมีภาคีเครือข่ายหลากหลายภาคส่วนออกมาร่วมกันคัดค้าน
หนึ่งในนั้นมี นายจุลจักร์ จักรพงษ์ หรือ ฮิวโก้ นักร้อง-นักแสดง ซึ่งมีความผูกพันกับบ้านริมเจ้าพระยา ออกตัวว่า "เพื่อความหลากหลายผมจะขอเป็นตัวแทนของคนที่ไม่มีการศึกษา ไม่มีความเชี่ยวชาญใดๆทั้งสิ้น ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับโครงการนี้ คำถามหลักๆที่รู้สึกว่า ยังไม่ได้คำตอบ คือ 1. รีบทำไม ทำไมต้องรีบ เพราะจริงๆ สร้างเมื่อไหร่ก็ได้จะสร้างปีหน้าหรือ 10 ปีข้างหน้า หากโครงการนี้ดีจริงมีการเรียกร้องจากประชาชนว่า ต้องการเข้าถึงแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้ พวกอำมาตย์หลีกทางไปให้หมดแบบนั้นก็สามารถสร้างได้ แบบนั้นรัฐบาลต้องทำตามเสียงของประชาชน การพัฒนาเป็นสิ่งที่ดีการที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงริมแม่น้ำเป็นสิ่งที่ดี แต่ทำไมต้องรีบ การรีบทำอะไรสักอย่างผลลัพธ์ออกมามักจะไม่ดี"
ฮิวโก้ บอกว่า โดยส่วนตัวคิดว่าโครงการนี้ไม่จำเป็นต้องรีบสร้าง เพราะว่าไม่ใช่เป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นเพียงเรื่องความสวยความงามและความสนุกสนานเท่านั้น ก่อนจะถามต่อว่า 2.ทำไมเป็นความลับ ทำไมต้องมีความลับกับผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมต่อทัศนียภาพของประเทศ ทำไมต้องปกปิด ทำไมไม่ชี้แจ้งว่า จะเป็นอย่างไรแบบไหน หากมองจากภาพจำลองโครงการนี้ดูเหมือนทางด่วน ก็ดูสวยงามจริงๆ แต่ทำไมต้องปิดบังรายละเอียด
และ3.ข้อเสียของการไม่สร้าง คือ อะไร เพราะได้ยินข้อเสียของการสร้างมาเยอะมากว่ามีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม มีผลกระทบต่อด้านสังคม มีผลกระทบในด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ มีคนถ่ายภาพเมื่อ 20 ปีก่อนเอาภาพนั้นมาเทียบกับตอนนี้ทัศนียภาพไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ สามารถเชื่อมโยงประวัติศาสตร์เมื่อร้อยปีได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ ถ้ามองไปที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะเห็นถึงความหลากหลายของศาสนาต่างๆ ที่อาศัยอยู่ได้อย่างสงบ
"การที่จะมีอะไรมาบดบังสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องน่าเศร้า หากเป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องผมก็ไม่ขัด แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องเหล่านั้น การสร้างโครงการนี้เหมือนเป็นการบดบังเสน่ห์ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีอยู่แต่เดิมมาช้านาน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย นักท่องเที่ยวมาคงไม่ได้ต้องการมาเห็นอะไรพวกนี้ เขาคงอยากมาซึมซับวิถีชีวิตและความเป็นประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ ถ้าทำลายจุดเด่นของกรุงรัตนโกสินทร์ไปแบบนี้ นักท่องเที่ยวไปที่อื่นไม่ดีกว่าหรือ"
ฮิวโก้ ทิ้งคำถามสุดท้ายให้คิดว่า เขาก็ยังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ แต่เราก็จะพยายามช่วยเหลือเพื่อนๆ แม่น้ำจนกว่าเราจะได้รับคำตอบเหล่านี้เช่นกัน
ไม่ต่างจาก นายกฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ น้อย วงพรู ซึ่งเข้าร่วมแสดงจุดยืนหยุดทางเลียบก่อนที่จะสาย
น้อย วงพรู มีธุรกิจส่วนตัวอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นคนที่รักเมืองโบราณเป็นอย่างมาก "เครื่องยืนยันก็คือการที่ย้ายบ้านจากสาทรมาอยู่ที่ภูเขาทอง และมาอนุรักษ์บ้านโบราณ เพราะอยากมีชีวิตในจุดนี้ของกรุงเทพฯ และยังได้สร้างโรงแรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยชื่อ "โรงแรมเดอะสยาม" เป็นโรงแรมที่พูดถึงวัฒนธรรมของบ้านเราที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เขามองว่า เพราะในกรุงเทพฯ จุดที่สวยที่สุด คือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นคิดว่า ต้องสร้างทางเลียบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆ คงรู้สึกเหมือนกำลังโดนแย่งกรุงเทพฯไป เป็นการดึงความสวยงามของบ้านเราไป "ผมเป็นคนที่รักเมืองเก่าเหลือเกิน ชุมชนที่ใช้ชีวิตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาเป็นร้อยปีคงเดือดร้อนกว่าผมมาก"
มองในเรื่องของธรุกิจ น้อย วงพรู เห็นว่า โครงการนี้สร้างผลกระทบให้อยู่แล้ว เพราะการสร้างโปรเจคใหม่ๆในบ้านเราใช้เวลาเป็นสิบปี สร้างไปก็ไม่เสร็จสักที การที่มีตอม่อปักลงไปในแม้น้ำเป็นพันๆต้น ไม่ได้สวยงามอะไรเลย การที่นำเงิน 1.4 หมื่นล้านไปใช้ทำอย่างที่มีประโยชน์กว่านี้ได้อีกเยอะ และก็ไม่เห็นว่าจะมีคนกรุงเทพฯ ต้องการทางเลียบแม่น้ำนี้
"ผมไม่แน่ใจว่าคนคลองเตย สุขุมวิท สาทร จะเอาจักรยานเพื่อมาปั่นริมทางเลียบนี้หรือไม่ การที่สร้างโครงการขนาดใหญ่แบบนี้เพื่อใครกันแน่ การที่สร้างรถไฟฟ้าสร้างความสะดวกขึ้น แต่การสร้างโครงนี้นี้ทำให้ชีวิตเราสะดวกขึ้นอย่างไรก็ยังไม่เข้าใจ และแน่นอนว่าจะต้องมีบางอย่างที่ไม่โปร่งใส โดยมีหลายที่ทำอย่างผิดกฎหมาย ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรที่ถูกต้องกับโครงการนี้และรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากกับโครงการนี้ เพราะไม่ได้ทำให้กรุงเทพฯสวยขึ้นเลยเป็นการดึงวัฒนธรรมอันดีงามของบ้านเราไปมากกว่า"