อธิการบดีมรภ.สวนสุนันทา ค้านรับคนนอกมาเป็นครู ยันอยากได้คนดีคนเก่งต้องใช้เวลา
อธิการบดีม.ราชภัฏสวนสุนันทา ลั่นไม่สนับสนุนคนนอกมาเป็นครู เผยปัจจุบันวิชาชีพนี้คนอยากทำงานมากขึ้น แนะทางออกให้รัฐเพิ่มเงินเดือน-ตัดระบบประกันคุณภาพทิ้ง
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 60 มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา จัดงานเวทีเสวนา "ตั๋วครู : วิกฤตวิชาชีพครูจริงหรือ" ทางออกของกระบวนการผลิตครู ณ ห้องสุพรรณิการ์ โรงแรมวังสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา กรุงเทพฯ
รศ.ดร.ฤาเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพที่น่าทำงาน เป็นวิชาชีพที่เป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน ปีนี้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา สอบแข่งขันเข้าเรียนเอกสังคมศึกษาอยู่ในอัตรา 1 ต่อ 36 นั่นหมายความว่า การเป็นครูนั้นมีกระบวนการที่สามารถคัดคนเก่งคนดีเข้ามาเรียนและจบออกมาเป็นครูได้ ตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือคิดว่า ทำอย่างไรให้วิชาชีพครูยกระดับเท่าเทียมกับวิชาชีพอื่นๆได้ อย่างแรกคือต้องเลือกคนดีคนเก่งเข้ามาในระบบ โดยขณะนี้อยู่ในภาวะนั้นแล้ว เพียงแต่ว่าต้องรอเวลาเพื่อให้คนเหล่านั้นจบออกมา
รศ.ดร.ฤาเดช กล่าวตอบคำถามที่ว่า ทำอย่างไรวิชาชีพครูจึงกลับมาเป็นที่ยอมรับ เริ่มที่ประเด็นที่ 1 คือการปรับเปลี่ยนครูสร้างระบบราชการ ครูไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นลูกน้องกระทรวงมหาดไทย แต่เป็นหน่วยงานที่บริหารจัดการเป็นตัวของตัวเอง อันนี้ทำให้ไม่ต้องมีเจ้านายเยอะ อีกส่วนหนึ่งยอมรับว่า การปรับปรุงยกระดับคุณภาพชีวิต เรื่องการปรับโครงสร้างเงินเดือน ทำให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นวิชาชีพที่ทำให้หลายๆคนอยากจะเดินเข้ามา
รศ.ดร.ฤาเดช กล่าวถึงความเข้มแข็งอีกประการหนึ่ง คือ ความเข้มแข็งที่เพิ่มขึ้นของคุรุสภา แม้จะมีระบบระเบียบขึ้นมาก็ตาม แต่ก็ทำให้วิชาชีพครูมีความขลัง และศักดิ์สิทธิ์ ครูขณะนี้จึงเป็น วิชาชีพที่น่าภาคภูมิใจ เป็นวิชาชีพที่ทำงานแล้วมีความสุข และดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างาม จะดีว่ากว่านี้ถ้าตัดระบบประกันคุณภาพทั้งหลายออกไป จะทำให้วิชาชีพมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"วันนี้จะมาพูดในฐานะคนที่มาเป็นครู ซึ่งผมไม่เห็นด้วย คำว่าไม่เห็นด้วยในตรงนี้ เพราะคิดว่าแนวคิดที่เกิด ในขณะนี้เป็นแนวคิดที่หยาบเกินไป ผมมีความเชื่อมั่นว่าการที่เราจะผลิตครูคนหนึ่งเข้าสู่สังคมออกไปทำงานให้กับประเทศชาติเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและมีความประณีตเป็นอย่างยิ่ง เราจะเห็นว่ากระบวนการเรียนครูเหมือนพิธีกรรม แต่เป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ หากมองศาสตร์อะไรก็เข้ามาเป็นครูได้ ผมคิดว่ามองผิด ความเป็นครูไม่ได้มีมติแค่ความรู้เท่านั้น และมติขณะนี้ก็เป็นความเชื่อของคนที่มีอำนาจมองว่า ตอนนี้ครูไม่เก่ง คงจะไปสอนเคมีสู้คนที่จบวิทยาศาสตรบัณฑิต เอกเคมีไม่ได้ อันนี้เป็นความเชื่อจึงได้ออกลักษณะนี้มา แต่ในข้อเท็จจริงยังไม่มีใครบอกได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของศาสตร์ คนจะเป็นครูนั้นจะมีศาสตร์อื่นๆที่มีความเกี่ยงข้องมากมาย ประเด็นที่สำคัญ คือ คนที่จะเป็นครูต้องมีความรัก ความศรัทธาในวิชาชีพครู เป็นเรื่องของเจตคติ เจตคติไม่ได้สร้างขึ้นมาง่ายๆ ต้องค่อยซึมเข้าไป ในการผลิตครูคนหนึ่งที่ทำอยู่ และต้องถูกดูแลใกล้ชิดจากคุรุสภา "
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ออกมาขณะนี้เป็นสิ่งที่น่าแปลก แม้ว่ากระแสขณะนี้จะลดลง มีการปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ แต่ก็คิดว่ายังไม่น่าไว้วางใจ เพราะวิธีคิดของผู้มีอำนาจยังคงเหมือนเดิม ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้วิชาชีพครูมีความแข็งแกร่ง และไม่มีใครมาตั้งข้อสงสัยถึงความสามารถของครู ส่วนการเอาติวเตอร์มาเป็นครู ก็จะได้ครูเลวๆคนหนึ่ง ซึ่งอยากจะให้เป็นบทพิสูจน์ต่อไปว่าสิ่งที่ทำในวันนี้ ผลพวงในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร