บทวิเคราะห์ 8 ข้อ คำพิพากษาจำคุก'จุฑามาศ50ปี-บุตรสาว44ปี' ฉบับ ป.ป.ช.
"..แม้ว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาลงโทษอดีตผู้ว่าฯ ททท. และบุตรสาวไปแล้ว แต่การต่อสู้ในคดีนี้ ยังมีอีก 2 ศาล คือ ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ซึ่งทาง ป.ป.ช. จะติดตามผลการพิจารณาคดีต่อไป.."
ในช่วงเที่ยงวันที่ 29 มี.ค.2560 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาวของนางจุฑามาศ ในคดีสินบนข้ามชาติบางกอกฟิล์ม เฟสติวัล โดยพิพากษาจำคุกคนละ 11 กระทง
โดยนางจุฑามาศ รับโทษจำคุก กระทงละ 6 ปี รวม 66 ปี แต่ตามกฎหมายจำคุกสูงสุดได้ 50 ปี , น.ส.จิตติโสภา บุตรสาว กระทงละ 4 ปี รวม 44 ปี และสั่งริบเงินที่ผิดจำนวน 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และดอกผลซึ่งศาลกำหนดทรัพย์สินเป็นเงิน 62 ล้านบาทเศษ
(อ่านประกอบ : จำคุก 'จุฑามาศ' 66 ปี-ลูกสาว 44 ปีคดีรับสินบน)
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า มีข้อเท็จจริงประการใด ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นำมาใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินคดีนี้บ้าง
เบื้องต้น ภายหลังจากที่ศาลฯ มีคำพิพากษาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการวิเคราะห์ผลการตัดสินคดีนี้ ไว้หลายประเด็นที่น่าสนใจ จำนวน 8 ข้อ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อเสนอมาเสนอ ดังนี้
1. พยานหลักฐานที่ได้มาตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา พ.ศ.2535 กฎหมายถือว่ารับฟังได้ ข้อต่อสู้จำเลยตกไป
2. สำนวนของ ป.ป.ช. มีความแน่นหนา
3. ข้อมูลทางการสหรัฐครบถ้วนสมบูรณ์
4. การแปลเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์
5. การเชื่อมโยงวันเวลารับเงินสอดคล้องสมบูรณ์
6. แม้เงินไม่เข้าอดีตผู้ว่าการ โดยตรง ไปเข้าบุตรสาว ก็ถือว่าผิดแล้ว
7. บุตรสาวมีความผิดในคดีนี้ด้วย โดยคดีนี้ ศาลพิพากษาลงโทษ อดีตผู้ว่าการ 11 กระทง ๆ ละ 6 ปี รวม 66 ปี แต่ลงโทษจริง 50 ปี บุตรสาว เป็นผู้สนับสนุน กระทงละ 4 ปี รวม 11 กระทง 44 ปี
8. แม้อัยการไม่ขอให้ริบเงิน ศาลสั่งริบเงิน 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เศษ กำหนดมูลค่า 62.7 ล้านบาทเศษ มีช่องทางที่ ปปช. จะขอเรียกเงินที่
ทางการสหรัฐ อายัดเงินที่อยู่ใน 5 ประเทศนั้นแล้ว
"แม้ว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาลงโทษอดีตผู้ว่าฯ ททท. และบุตรสาวไปแล้ว แต่การต่อสู้ในคดีนี้ ยังมีอีก 2 ศาล คือ ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ซึ่งทาง ป.ป.ช. จะติดตามผลการพิจารณาคดีต่อไป" แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช.ระบุ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2560 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนางจุฑามาศ ศิริวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรณีร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งสืบเนื่องจากการชี้มูลความผิดกรณีเรียกรับสินบนนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา 60 ล้านบาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นางจุฑามาศ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควรอันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจ้างนักธุรกิจชาวสหรัฐฯ ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างเป็นผู้ว่าฯ ททท. รวมเป็นเงินประมาณ 1.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว 65 ล้านบาท)
กรณีนี้มีการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ จนปรากฏพยานหลักฐานว่า นางจุฑามาศมีทรัพย์สินเป็นเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน และการชี้แจงที่มาของเงินดังกล่าว ไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้
สำหรับการดำเนินคดีในสหรัฐฯ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างดำเนินคดีนางจุฑามาศ และบุตร ฐานฟอกเงิน และดำเนินการริบทรัพย์ทางแพ่ง มีการอายัดบัญชีในธนาคารต่าง ๆ ในต่างประเทศของบุตรสาวคือ อังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดีปัจจุบันทางการสหรัฐฯได้พักคดีดังกล่าวไว้ เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญาของศาลในประเทศไทย
ทั้งนี้ ทรัพย์สินดังกล่าว ป.ป.ช. ประสานกับทางการสหรัฐฯอายัดไว้แล้ว และทางการสหรัฐฯอายัดไว้แล้ว และทางการสหรัฐฯมีพันธกรณีที่จะต้องคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของไทยที่เกิดจากการทุจริต โดย ป.ป.ช. จะประสานกับทางการสหรัฐฯ เพื่อติดตามทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ในต่างประเทศกลับคืนสู่ไทยโดยเร็ว โดยอาจทำเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ หรือกับรัฐบาลประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะทำให้คดีนี้เป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรกที่มีการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และเป็นคดีตัวอย่างของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะมุ่งมุ่นในการปราบปรามปัญหาการทุจริตข้ามชาติ โดย ป.ป.ช. จะไม่เพียงแต่มุ่งน้ำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ยังเน้นถึงการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกลับคืนสู่แผ่นดินด้วย
โดยคดีนี้เป็นกรณีร่ำรวยผิดปกติ คนละส่วนกับคดีสินบน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก นางจุฑามาศและบุตรสาว ในช่วงเที่ยงวันที่ 29 มี.ค.2560 ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
(อ่านประกอบ : โชว์เส้นทางเงินคดีรวยผิดปกติ ‘จุฑามาศ’ซุกในบัญชีลูก 4 ประเทศ 65 ล.)
หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่องจาก Nation
อ่านประกอบ :
อสส.นำ“อดีตผู้ว่าฯ ททท.-บุตร”ฟ้องศาลอาญา ปมรับเงิน 60 ล.จัดเทศกาลหนัง
อสส.สั่งฟ้อง! “อดีตผู้ว่าฯ ททท.”ปมเรียกรับเงิน 60 ล.จัดงานเทศกาลหนัง
คณะทำงานร่วมฯส่งหลักฐานจากสหรัฐเพิ่ม!ชงอสส.ฟ้อง"จุฑามาศ"รับสินบน 60 ล.
คณะทำงานร่วมฯสอบ 3 ปีชง อสส. ฟ้องอดีตผู้ว่าฯททท.รับสินบน 60 ล.