รักษาการผอ.ขสมก.ขีดเส้น 15 วัน ยุติปัญหารถเมล์เอ็นจีวี
หากไม่ตัดสินใจปัญหาจะไม่มีทางจบ ทำให้ทุกฝ่ายเสียหายหมดทั้งภาคเอกชนและประชาชนที่รอใช้รถเมล์ใหม่ ขสมก.ก็เสียหาย เมื่อสัญญามีก็ต้องว่าไปตามสัญญา
จากกรณีที่บอร์ด ขสมก.มีมติแต่งตั้ง 'สมศักดิ์ ห่มม่วง' รองปลัดกระทรวงคมนาคม นั่งรักษาการ ผอ.ขสมก.แทน 'สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล' นั้น มาจากกรณี 'เบสท์ริน' ที่ส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ล่าช้า และมีปัญหาการสำแดงถิ่นกำเนิด
@ การแก้ไขปัญหาเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มี.ค.ได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ ท่านประธานผู้ตรวจรับรถ ผู้ช่วยผู้อำนวยการรับรถ และคณะกรรมการตรวจรับรถ ให้มาสรุปเรื่องความเห็นให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน โดยในยึดกฎหมาย สัญญา และข้อเท็จจริงเป็นหลัก โดยจะใช้ดุลพินิจวินิฉัย ซึ่งจะมีการทดลองรถเมล์เอ็นจีวี ดูขั้นตอนการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวี และรายงาน โดยต้องการความชัดเจน ซึ่งในส่วนนี้ไม่อยากให้คลุมเครือ จะมีตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายอีก 1 ชุด เพื่อมาดูในเรื่องอำนาจของผู้อำนวยการอีกระดับ จะไม่มีการตั้งธงว่าจะยกเลิกสัญญาหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จนว่าคณะทำงานจะวินิฉัยจนได้ข้อสรุป
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แก่ประชาชน เพราะรถเมล์ที่ให้บริการอยู่ปัจจุบันมีอายุการใช้งาน 20 ปีขึ้นไปแล้ว
หลังจากทำการประชุมเพื่อแสดงความเห็นเสร็จสิ้นภายใน 15 วันแล้ว ผู้อำนวยการขสมก.สามารถยกเลิกสัญญา โดยระยะ 15 วันถือว่าเพียงพอ หากไม่ตัดสินใจปัญหาจะไม่มีทางจบ ทำให้ทุกฝ่ายเสียหายหมดทั้งภาคเอกชนและประชาชนที่รอใช้รถเมล์ใหม่ องค์กรขสมก.ก็เสียหาย เมื่อสัญญามีก็ต้องว่าไปตามสัญญา
@เอาจริงๆท่านกังวลไหมเพราะมาพร้อมกับเผือกร้อน?
ในปัจจุบันนี้มีรถเมล์แบ่งเป็นสองส่วนคือ 1. รถที่ไม่มีปัญหาโดยยอมเสียภาษี 40 % 2.รถส่วนที่มีปัญหากับทางกรมศุลกากรที่มีการสำแดงเท็จ และมีรถบางส่วนที่กรมศุลกากรฟันธงว่ารถเมล์นั้นผิด
รถที่มาล็อตแรกจะสามารถใช้ได้เมื่อไหร่ต้องดูภาพรวมแยกส่วนคงไม่ได้ เราเป็นหน่วยราชการจะไปรับของที่มีปัญหาคงทำได้ยาก ซึ่งในตอนนี้กำลังให้คณะกรรมการตรวจสอบอยู่ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย
กรณีดังกล่าวเป็นปัญหาขององค์กรและเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และท่านนายกฯเน้นย้ำว่าธันวาคมต้องได้รถเมล์ใหม่มาใช้งาน ในเมื่อท่านนายกฯบอกให้มาช่วยทำในเรื่องนี้ก็จะทำตามกรอบที่เห็นว่าดีที่สุด
@ เรื่องของรถเมล์ที่ให้บริการประชาชน ท่านวางแผนจัดการกับการที่ได้รถเมล์มาใหม่ 489 คันที่จะเข้ามาอย่างไรบ้าง?
ส่วนจะจัดการวางแผนกับรถเมล์ทั้ง 489 คันขอตอบว่า ตอนนี้อยากจะแก้ปัญหาตรงนี้ให้จบก่อน ไม่เช่นนั้นจะคาราคาซัง ความจริงเรามีแผนฟื้นฟูและจะนำแผนนี้เข้าสู่ครม. แต่ต้องเอาเรื่องรถเมล์ให้จบก่อน
หากเราตัดสินใจตรงนี้ได้ จะสามารถทำขั้นต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้บอกตามตรงว่ายังไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้รถเมล์ 489 คันเพราะตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจ เพื่อจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ส่วนแผนฟื้นฟู ขสมก.ที่วางแผนไว้ ความจริงผ่าน สคร.แล้ว แต่บังเอิญรถมล์เอ็นจีวีมีปัญหา เลยส่งผลกระทบกับแผนนี้ทำให้ต้องหยุดไว้ก่อน โดยรายละเอียดของแผนนี้คือจะทำอยู่ 8 เรื่องใหญ่ๆ
1. ทำอีทิกเก็ต เพื่อลดพนักงานเก็บตั๋ว โดยมีการทดสอบระบบ มีบริษัทยื่นมาทดสอบ 4 รายแต่ผ่านคุณสมบัติแค่ 2 ราย โดยจะเปิดประมูลวันที่ 5 เม.ย.นี้
2. GPS ตอนนี้ติดไปแล้ว 500 คัน และอีก 2 พันคัน จะติดตั้งให้เสร็จภายในเดือนเม.ย.นี้
3. การลดภาระดอกเบี้ย เพราะตอนนี้ขสมก.เป็นหนี้น้ำมันและมีดอกเบี้ย โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งมี 2 ส่วน คือ 1.หนี้ที่องค์กรก่อเอง 2.หนี้ตามนโยบายรัฐบาล โดยหนี้รวมทั้งหมดตอนนี้ประมาณ 1.2 แสนล้าบาท หนี้ภาครัฐประมาณ 8 หมื่นล้าน ส่วนอีก 2 หมื่นล้านเป็นหนี้ของขสมก.
4. หาทางเพิ่มรายได้ ขณะกำลังมีเรื่องปฎิรูปเส้นทางกรมขนส่งทางบกกำลังตรวจสอบเส้นที่วิ่งวนเวียน เพื่อให้ความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย
5. เพิ่มรายได้อื่นๆ โดยมีการเช่าพื้นที่มีนทบุรี และบางเขน โดยได้จ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้คิดว่า จะหารายได้จากพื้นที่เหล่านี้อย่างไร
6.จะขอขึ้นราคารถปรับอากาศเพราะขณะนี้ราคารถเมล์ปรับอากาศราคาต่ำกว่ามาตรฐาน
7.เรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร คือเดิมเป็นผู้ให้บริการและเป็นผู้กำกับดูแล ของใหม่คือการกำกับดูแลจะอยู่ที่กรมขนส่งทางบก เพื่อลดภาระแต่ก็จะขาดรายได้ส่วนนั้นไป
8.เรื่องสุดท้ายคือเรื่องการประหยัดค่าเชื้อเพลิงเพราะถ้าหากเราได้รถเมล์ใหม่จะช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้
ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก FM 101
ขอบคุณภาพจาก www.posttoday.com